เครือข่ายภาคปชช. 
มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค มูลนิธิสุขภาพไทย มูลนิธิเพื่อนหญิง เเละเครือข่ายประชาชนในนาม "เครือข่ายธรรมาภิบาลด้านพลังงาน" ร่วมกันจัดกิจกรรมรณรงค์ "ปั่นต้านโลภ หยุดการขึ้นก๊าซ เเอล-พี-จี หยุดการกอบโกยของธุรกิจพลังงาน" เพื่อเเสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ เรียกร้องรัฐบาลให้ทบทวนการขึ้นราคาก๊าซเเอลพีจี เเละก๊าซหุงต้ม หลังกระทรวงพลังงาน เตรียมปรับราคาก๊าซหุงต้มที่ใช้ในครัวเรือนจาก 18.13 บาท ต่อกิโลกรัม ปรับเป็น 24.82 บาทต่อกิโลกรัม
ทั้งนี้ "ก๊าซเเอลพีจี" ของรถยนต์จาก 21.38 บาท ต่อกิโลกรัม ปรับเป็น 24.82 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งทางเครือข่ายฯ มองว่า การปรับขึ้นราคาก๊าซดังกล่าว เป็นการเอาเปรียบเเละไม่เป็นธรรมกับประชาชน
ขบวนจักรยานเริ่มเคลื่อนขบวนที่สวนลุมพินี มุ่งหน้าไปตามถนนพระรามสี่ ตรงไปที่สถานีรถไฟหัวลำโพง เลี้ยวกลับมาที่สามย่าน มาบุญครอง สยาม ถึงเเยกราชประสงค์ โดยตลอดเส้นทางมีการเเจกเอกสารเผยเเพร่ เเละชักชวนให้ประชาชนที่อยู่ในเส้นทางดังกล่าว ให้เข้าร่วมรวมพลังคัดค้านการขึ้นราคาเเอลพีจีในครั้งนี้ ทางเครือข่ายฯ เสนอข้อเรียกร้องให้รัฐบาล 3 ข้อ คือ ขอให้รัฐบาลกำหนดหลักการจัดสรรปริมาณก๊าซ เเอลพีจี ที่ผลิตได้ในประเทศ ให้ภาคครัวเรือนเเละรถยนต์เป็นอันดับเเรก
ส่วนปริมาณก๊าซเเอลพีจีที่เหลือจากการจัดสรรข้างต้น ให้นำไปจัดสรรให้กับภาคอุตสาหกรรมปิโตรเคมีเป็นลำดับต่อไป หนี้ของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงซึ่งติดลบอยู่ประมาณ14,000 ล้านบาท ให้รัฐบาลสั่งให้ปิโตรเคมีที่ใช้เเอลพีจีอย่างน้อยปีละ 2,400-2,5000 ล้านกิโลกรัม จ่ายเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯอย่างน้อย 12 บาท ต่อกิโลกรัม จะทำให้ได้เงินถึงปีละ 28,000 ถึง 30,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้หนี้กองทุนน้ำมันฯหมดไปภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งปี เเละสุดท้าย ขอให้รัฐบาลมีคำสั่งห้ามไม่ให้ปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นกรรมการในธุรกิจพลังงานทั้งหมด เพื่อเเก้ปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อนอันขัดต่อหลักธรรมาภิบาลสากล