ภาคเอกชนเตรียมหารือ แก้ปัญหาเงินบาทแข็งค่า พรุ่งนี้
นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ระบุว่าปัญหาเงินบาทแข็งค่าทำให้ความสามารถในการส่งออกของไทยลดลง จึงควรที่จะเก็บภาษีเงินทุนจากต่างประเทศที่ไหลเข้ามาเก็งกำไร
นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวต่ออีกว่า ขีดความสามารถทางการแข่งขันด้านการส่งออกของไทยขณะนี้อยู่ในระดับต่ำมาก ทั้งจากราคาสินค้าที่สูงกว่าประเทศคู่แข่ง และเงินบาทที่แข็งค่า
ซึ่งมาตรการหนึ่งช่วยทำค่าเงินบาทอ่อนค่าลงได้คือ เก็บภาษีเงินทุนที่เข้ามาเก็งกำไรจากต่างประเทศ
ขณะเดียวกันวันพรุ่งนี้ (7 พ.ค.2556) ภาคเอกชนเตรียมหารือถึงปัญหาค่าเงินบาทร่วมกันอีกครั้งในการประชุมคณะกรรมการร่วม 3 สถาบันภาคเอกชน หรือ กกร. โดยจะติดตามผลกระทบจากเงินบาทแข็งค่า รวมทั้งการแก้ปัญหาที่ผ่านมาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
และสัปดาห์นี้ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย จะหารือพร้อมยื่นข้อเสนอต่อนายกรัฐมนตรี ในการแก้ไขปัญหาค่าเงินบาท โดยเน้นไปที่ภาคการเงินมากขึ้น
หลังที่ผ่านมา ภาคส่งออกได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทอย่างมาก ซึ่งหากไม่ได้รับการแก้ไข อาจทำให้การส่งออกปีนี้ขยายตัวได้ต่ำกว่าร้อยละ 5 จากเป้าหมายที่ร้อยละ 8-9
สำหรับคาดการณ์แนวโน้มค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า จะเคลื่อนไหวในกรอบ 29.30 สตางค์ - 29.90 บาท ต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งต้องติดตามสถานการณ์ตลาดการเงินและท่าทีของรัฐบาลในการดูแลค่าเงินบาท