อปท.นัดชุมนุมใหญ่กดดันรัฐบาล 28 พ.ค.นี้
รท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือ อปท. ที่เรียกร้องขอเพิ่มสัดส่วนเงินงบประมาณ เป็นร้อยละ 30 จากเงินรายได้สุทธิของรัฐบาลว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เห็นว่าได้เลยขั้นตอนของ ครม.ที่จะพิจารณา เพราะ ครม.ได้มีมติกำหนดกรอบไปแล้ว คงจะไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ หลังจากนี้เป็นการพิจารณาของสภาฯ ที่อาจจะมีการปรับแก้ตัวเลขต่อไป แต่รัฐบาลก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยเร็ว ๆ นี้จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและตัวแทนของอปท. มาประชุมเพื่อหาทางออกต่อไป
ด้านนายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องนำข้อเสนอกรณีการทบทวนการจัดสรรงบประมาณให้ อปท.เป็นร้อยละ 30 ของเงินรายได้รัฐบาล เข้าหารือกับ ครม. รวมถึงนำไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะคณะกรรมการกระจายอำนาจให้แก่องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น หรือ กกถ. ตลอดจนการพิจารณาเป็นร่างกฎหมายต้องปรึกษาและทบทวนกับทุกฝ่ายอย่างรอบด้าน
ด้านแกนนำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือ อปท. ซึ่งประกอบด้วยสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย สมาคมองค์การบริหารส่วนตำบล และสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย ที่มาชุมนุมเรียกร้องขอเพิ่มงบประมาณ สนับสนุนรัฐบาลจากบริเวณหน้าทำเนียบ ได้ยุติการชุมนุม หลังจากยื่นข้อเสนอ 4 ข้อให้กับรัฐบาลผ่านนายวราเทพ รัตนากร
แต่เนื่องจากไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน จึงเตรียมชุมนุมอีกครั้งวันที่ 28 พฤษภาคมนี้ ที่บริเวณรัฐสภา และทำเนียบรัฐบาล เพื่อติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับข้อเรียกร้อง โดยการชุมนุมในวันดังกล่าวจะมีผู้ร่วมชุมนุมกว่า 100,000 คน
การเสนอให้ถอดโครงการส่งเสริมอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. เชิงรุกออกจากสัดส่วนรายได้ของท้องถิ่น และให้เร่งพิจารณาเงินอุดหนุนทั่วไปมาชดเชยเงินงบประมาณปรับเพิ่มขึ้นค่าแรง 300 บาทและปริญญาตรี 15,000 ของ อปท.
ส่วนข้อเรียกร้องของกลุ่มขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือ พีมูฟ เมื่อวานนี้ (14 พ.ค.) ที่ประชุม ครม.ไม่มีการหยิบข้อเรียกร้องกลุ่มพีมูฟขึ้นมาหารือ แม้กลุ่มพีมูฟจะยกระดับการชุมนุม มากดดันที่หน้าทำเนียบรัฐบาล
เบื้องต้นนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง เป็นผู้เจรจา โดยก่อนหน้านี้ ได้มีการแต่งตั้งให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการแก้ปัญหา และได้เจรจากับกลุ่มดังกล่าว รวมถึงรับข้อเรียกร้องมาเสนอต่อคณะรัฐมนตรี แต่ท้ายที่สุดที่ประชุม ครม.ก็ไม่ได้มีการพิจารณาแต่อย่างใด