พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรจังหวัดพิจิตร เร่งสรุปคดีชาวนากว่า 100 คน ที่แจ้งความดำเนินคดีกับนายอำนาจ ดิษเสถียร เจ้าของท่าข้าวหัวดง และผู้บริหาร โรงสีแอลโกลค์แมนูแฟคเจอร์ ในข้อหาฉ้อโกงข้าวเปลือก เกือบ 2,000 ตัน มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท และข้าวในโครงการรับจำนำปี 55/56 ขององค์การตลาดเพื่อเกษตรกร กว่า 2,000 ตัน ตามคำสั่งของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ให้เสร็จภายใน 30 วัน
ขณะที่ เมื่อคืนที่ผ่านมา (25 มิ.ย.) ได้เรียก นางพวงเกสร วงศอนุพรกูล หัวหน้าเจ้าหน้าที่ อตก.จังหวัดพิจิตร ให้ข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อเป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดี ส่วนนายอำนาจ ดิษเสถียร เจ้าของท่าข้าวที่ถูกตำรวจจับได้ก่อนหน้านี้ ได้ยื่นหลักทรัพย์ จำนวน 3 ล้านบาท เพื่อขอประกันตัว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล โดยเจ้าหน้าที่คัดค้านการประกันตัว
ส่วนความคืบหน้าของในคดีของโรงสีแอลโกค์แมนูแฟคเจอร์ ตำรวจคาดว่า จะสามารถสรุปสำนวนและออกหมายจับผู้บริหารโรงสีได้ภายในสัปดาห์หน้านี้ ล่าสุดมีรายงานว่า พนักงานสอบสวนได้ออกหมายจับนายมุนินทร์ จันทรา นางสาวณัฐริยา บุญเกื้อ และนายณัฐกิตติ์ อนันต์ชลินทร์ ผู้บริหารโรงสีแอลโกค์แมนูแฟคเจอร์แล้วเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
ขณะที่นายพรศักดิ์ เจียรไนย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยข้อมูลการตรวจสอบ พบข้าวในโกดังของโรงสีนพพร อ.บ้านเขว้า หายไปกว่า 600 ตัน ซึ่งขณะนี้ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่องค์การคลังสินค้าลงพื้นที่ตรวจสอบ และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด
เช่นเดียวกับที่จังหวัดกาญจนบุรี ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งตรวจสอบโกดังข้าวที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าว ทั้ง 13 แห่ง โดยพบว่ายังอยู่ครบตามสต็อค ทางตำรวจได้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อป้องกันข้าวหาย
ส่วนที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ชาวนาในอำเภอเชียรใหญ่ อำเภอหัวไทร และพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 200 คน ทยอยมารวมตัวกันบริเวณสี่แยกบ่อล้อ อำเภอเชียรใหญ่ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลคงราคาจำนำข้าวเปลือกในราคา 15,000 บาทไปจนสิ้นฤดูกาลผลิต 55/56 และขยายเวลารับจำนำข้าวเปลือกไปจนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน โดยมีตำรวจชุดควบคุมฝูงชน 1 กองร้อยคอยดูแล หลังจากกลุ่มชาวนาขู่จะปิดถนนหากไม่ได้รับความชัดเจนจากรัฐบาล
พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง เปิดเผยถึงการลงพื้นที่ตรวจตรวจโกดังและโรงสีทั่วประเทศ 50 จุดในวันพรุ่งนี้ (27 มิ.ย.) ว่า เบื้องต้นสนธิกำลังกับตำรวจและหน่วยงานทีเกี่ยวข้องแต่ละพื้นที่ในการเข้าตรวจสอบ หากพบว่าโรงสีใดมีข้าวสารผิดพลาดเกินร้อยละ 5 ข้าวเปลือกเกินร้อยละ 10 จะถูกดำเนินคดีทันที คาดว่าจะสรุปผลตรวจสอบได้ภายในเวลา 18.00 น.วันเดียวกัน