ดีเอสไอสอบพยานใกล้ชิด "อดีตพระเณรคำ"

19 ก.ค. 56
14:20
30
Logo Thai PBS
ดีเอสไอสอบพยานใกล้ชิด "อดีตพระเณรคำ"

ดีเอสไอตรวจสอบ คนสนิทของอดีตพระเณรคำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเด็นทรัพย์สิน หลังเมื่อวานนี้ (18 ก.ค.2556) สอบปากคำพยานซึ่งเป็นมารดาของพระเลขา ที่ขณะนี้อยู่ต่างประเทศกับอดีตพระเณรคำ เนื่องจากพบความเชื่อมโยงเส้นทางการเงินและรับบริหารจัดการเรื่องเงินอดีตพระเณรคำ และวันนี้ (19 ก.ค. 2556) ดีเอสไอตรวจสอบตำรวจทางหลวงที่ใกล้ชิด รวมทั้งประเด็นการที่อดีตพระเณรคำ สัญญาว่าจะสร้างบ้านพักตำรวจทางหลวงให้ ทั้งที่ส่วนหนึ่งเป็นงบประมาณจากภาครัฐ

พยานคนนี้ ต้องเข้าให้ข้อมูล เกี่ยวกับเรื่องรถที่เกี่ยวข้องกับนายวิรพล สุขผล หรืออดีตพระเณรคำ จำนวน 35 คัน จากกว่า 70 คัน เป็นครั้งที่ 3 โดยเอกสารการครอบครองรถที่มีการซื้อขายให้อดีตพระเณรคำของพยานรายนี้ ในเอกสารบางส่วน ได้ระบุรายชื่อผู้ครอบครองรถ ที่มีบุคคลใกล้ชิด ทั้งญาติ ลูกศิษย์ รวมไปถึงนายวิรพล ขณะบวชเป็นพระ และบางส่วนเป็นชื่อของพยาน เนื่องจากชำระเงินไม่ครบ ซึ่งเอกสารเหล่านี้ เป็นหลักฐานสำคัญทางคดี เพราะเป็นจุดเริ่มต้น ที่จะสามารถแกะรอยและเชื่อมโยง ไปยังเงินที่มาจากการซื้อรถ

จากข้อมูลที่พบ จะนำไปเทียบเคียงกับคำบอกเล่าของคนสนิทนายวิรพลที่สอบปากคำวันนี้ (19 ก.ค.2556)   โดยเฉพาะประเด็น เงินบริจาคถูกนำไปเปลี่ยนเป็นทรัพย์สินหรือไม่อย่างไร

คำให้การของตำรวจทางหลวงคนสนิท ยังระบุถึง การก่อสร้างอาคารที่พัก ตำรวจทางหลวง จังหวัดอุบลราชธานี ที่ดินเปล่าผืนนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นห้องแถวบ้านพักตำรวจทางหลวง กว่า 20 ห้อง แต่มีการรื้อเพื่อสร้างห้องพักใหม่ออกไป ส่วนที่มีการระบุว่านายวิรพล จะสร้างให้นั้น เป็นเรื่องจริง แต่เป็นการรับปาก หลังมีการรื้อถอนออกไปแล้ว ซึ่งเมื่อมีเรื่องนายวิรพลเกิดขึ้น โครงการยังคงมีอยู่ เพราะสร้างจากงบประมาณที่ขอไว้ก่อนหน้า

ขณะเดียวกัน มีการเข้าให้ข้อมูลจากผู้ประกอบการต่างๆ ที่ถูกนายวิรพล และคนใกล้ชิด ไม่จ่ายค่าวัสดุก่อสร้าง โดยการติดต่อจะเป็นการติดต่อผ่านตำรวจคนสนิท คนใกล้ชิด รวมไปถึงในนามบริษัทขันติธรรมก้าวหน้า ที่เข้ามาดูแลบริหารจัดการด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับที่พักสงฆ์ขันติธรรมทั้งหมด

ส่วนหนึ่งการติดตามทรัพย์สินนายวิรพลเท่านั้นการพิสูจน์สิทธิ์ การครอบครองที่ดิน โดยเฉพาะที่พักสงฆ์ขันติธรรม และสาขาต่างๆ ดีเอสไอ อยู่ระหว่างตรวจสอบว่า ที่ดินเหล่านี้ ได้มาจากการบริจาค เพื่อสร้างเป็นวัด หรือเป็นที่ดินของครอบครัว เพราะหากเป็นการบริจาค เพื่อสร้างสถานที่พักสงฆ์ หรือวัด การดำเนินการขั้นต่อไป คือการอายัดที่ดิน กลับคืนเจ้าของเดิม


ข่าวที่เกี่ยวข้อง