พิสูจน์ข้อสงสัยวัตถุคล้ายน้ำมันดิบที่ชายฝั่งทะเลใต้

4 ส.ค. 56
15:04
94
Logo Thai PBS
พิสูจน์ข้อสงสัยวัตถุคล้ายน้ำมันดิบที่ชายฝั่งทะเลใต้

ผลพิสูจน์โดยนักวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ที่เคยยืนยันว่า คราบน้ำมันจับตัวเป็นก้อนลักษณะคล้ายยางมะตอย ที่ลอยติดชายฝั่งในพื้นที่ 4 อำเภอ ของจังหวัดสงขลา เมื่อ 4 เดือนก่อน เป็นก้อนน้ำมันดิบชนิดหนัก ที่ใช้ในหัวขุดเจาะสำรวจน้ำมัน ซึ่งขัดแย้งกับผลพิสูจน์ของกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ที่ระบุว่า ก้อนน้ำมันดิบเป็นเพียงปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ กรณีนี้สร้างความสนใจให้กับชาวบ้านในพื้นที่มากยิ่งขึ้น เพราะต้องการรับทราบข้อมูลที่ชัดเจน หลังเกิดอุบัติเหตุน้ำมันรั่วไหลทะเลจังหวัดระยอง เมื่อสัปดาห์ก่อน

นักวิชาการมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  นำกากของเสีย จับตัวเป็นก้อนลักษณะคล้ายยางมะตอย เข้าห้องแล็ป ตั้งในความร้อนอุณภูมิสูง 80 องศา เพื่อพิสูจน์ผล โดยพบวัตถุดังกล่าวละลายอยู่เหนือผิวน้ำ และระบุได้ทันว่า เป็นก้อนน้ำมันดิบชนิดหนัก ที่ใช้ในหัวขุดเจาะสำรวจน้ำมันกลางทะเล หลังถูกพบลอยมาติดชายหาด ตั้งแต่อำเภอระโนด มาจนถึงเขตอำเภอเมือง จ.สงขลา ในช่วงเดือนก.พ.และเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา

สำหรับ หน่วยเครื่องมือกลาง มหาวิทยาลัยแห่งนี้ เคยทำหน้าที่ตรวจสอบปรากฏการณ์คราบน้ำมัน ที่ลอยมาติดชายหาด ให้กับเทศบาลนครสงขลา มาแล้ว เมื่อ 2 ปีก่อน จึงพิสูจน์ได้ไม่ยาก

แตกต่างการออกมายืนยันของ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ที่ให้ผู้เชี่ยวชาญพิสูจน์แล้ว ระบุ ก้อนกลมลักษณะเป็นทรายเหนียวสีน้ำตาล และมีคราบสีดำบนอยู่ คุณสมบัติทางเคมี ไม่ตรงกับน้ำมับดิบแต่อย่างใด องค์ประกอบส่วนใหญ่ เป็นเพียงไขมันพืช และสัตว์เท่านั้น

แม้ไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน และบริษัทผู้รับสัมปทานแท่นจุดเจาะสำรวจปิโตรเลียม กลางทะเลในจังหวัดสงขลา รับผิดชอบด้วยการจัดสรรงบประมาณให้กับองค์การบริหารส่วนตำบล ปีละ 1,500,000 บาท รวม 28 แห่ง ที่ตั้งอยู่แนวชายฝั่ง เงินส่วนหนึ่งจะถูกนำมาแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ด้วยการว่าจ้าง ชาวบ้านให้เดินเก็บก้อนน้ำมัน วันละ 300 บาท ก่อนนำไปฝั่งกลบบริเวณหาดมหาราช
แต่กลับไม่มีหน่วยใดออกมาพูดถึงผลกระทบระยะยาวกับวิถีชีวิตชาวประมง

ปี 2546 กระทรวงพลังงาน อนุมัติให้ขุดเจาะหลุมสำรวจปิโตรเลียม จี 5 /43 จนถึงขณะนี้ มีการขุดเจาะไปแล้ว 10 แท่น อยู่ระหว่างจัดทำรายงาน อีไอเอ อีก 3 แท่น หนึ่งในนั้นตั้งอยู่ห่างจากเกาะหนู เกาะแมว แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัด ไม่ถึง 30 กิโลเมตร

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง