ทีดีอาร์ไอ ห่วงร่างพ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ไม่ผ่านสภาฯ

25 ส.ค. 56
14:39
35
Logo Thai PBS
ทีดีอาร์ไอ ห่วงร่างพ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ไม่ผ่านสภาฯ

กระทรวงคมนาคมเร่งผลักดันร่างพ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรให้ทันในช่วงต้นเดือนก.ย.ขณะที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลังเล็งตั้งกองทุนทางเลือก หากไม่ผ่านการพิจารณาของสภาฯ ซึ่งนักวิชาการจากทีดีอาร์ไอระบุว่า การตั้งกองทุนดังกล่าวจะต้องพิจารณาให้รอบคอบและตั้งคนกลางที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทำการศึกษาโครงการที่จะลงทุนก่อน

แผนการก่อสร้างรถไฟฟ้า สายสีม่วง สีน้ำเงิน สายสีเขียว โครงการก่อสร้างถนนทางหลวง ขยายถนน 4 ช่องทางจราจรจำนวน 6 สาย และแผนการปรับปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เป็น 3โครงการแรกที่จะดำเนินการทันทีหากพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทประกาศใช้  โดยนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เชื่อว่าร่างพ.ร.บ.กู้เงิน2 ล้านล้านบาท เพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯได้ทันในต้นเดือนก.ย. และจะผ่านการพิจารณา เพราะเป็นการพัฒนาประเทศในระยะยาวไม่ใช่ประเด็นการเมือง โดยจะเน้นชี้แจงความจำเป็นและเหตุผลของการลงทุน

สำหรับกรอบวงเงินการลงทุนแยกตามยุทธศาสตร์การพัฒนา แบ่งเป็น 3 ยุทธศาสตร์ โดยเป็นการลงทุนสร้างความเชื่อมโยง ของประตูการค้าหลักและชายแดนและโครงข่ายระหว่างภูมิภาค สูงสุดกว่า 1 ล้านล้านบาท รองลงมาคือการพัฒนาโครงสร้างพื้นที่ 570,000 ล้านบาทและปรับปรุงการขนส่ง 350,000 ล้านบาท

ด้านนายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.ฉ ระบุว่า หาก พ.ร.บ กู้เงิน 2ล้านล้านบาท ไม่ผ่านความเห็นชอบจากสภาฯ สมัยนี้ รัฐบาลเตรียมจัดทำแผนการลงทุนในโครงการที่จำเป็นเร่งด่วน เช่น รถไฟฟ้า 10 เส้นทาง ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อจัดสรรงบประมาณปี 2557 มาใช้ศึกษาโครงการ จากนั้นจึงค่อยโยกโครงการลงทุนไปใช้เงินลงทุน 2 ล้านล้านบาทภายหลังเพื่อไม่ให้โครงการหยุดชะงัก ซึ่งนักวิชาการสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) เห็นว่า รัฐบาลสามารถจัดตั้งกองทุนนอกพ.ร.บ.ได้เพื่อมีงบประมาณพอใช้ในช่วง 1-2 ปีแรก แต่สิ่งสำคัญคือผลการการศึกษาที่ควรใช้คนกลางที่ไม่เกี่ยวข้องมาศึกษา

ทั้งนี้กระทรวงคมนาคมอยู่ระหว่างการปรับเปลี่ยนชื่อ พ.ร.บ.การกู้เงินเพื่อการลงทุน 2 ล้านล้านบาท เป็น พ.ร.บ.สร้างอนาคตในประเทศ เนื่องจาก พ.ร.บ.การกู้เงิน 2 ล้านล้านบาทนั้น ทำให้ประชาชนเข้าใจว่าเป็นการสร้างหนี้ในประเทศอย่างมหาศาล ซึ่งในความเป็นจริงนั้น ได้เป็นโครงการที่สร้างการลงทุนขนาดใหญ่ในระยะ 7 ปี ที่จะสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศมากกว่า


ข่าวที่เกี่ยวข้อง