หลายจังหวัดภาคเหนือ-อีสาน พร้อมรับมือ
หลายจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงน้ำป่า ดินโคลนถล่ม เร่งหามาตรการเตรียมรับมือ หลังได้รับคำเตือนให้เฝ้าระวังไปจนถึงวันที่ 15 กันยายนนี้
ฝนที่ตกหนักตลอดทั้งวัน ทำให้นายธำรงค์ เจริญกุล ผู้ว่าราชการจ.พังงา ประกาศแจ้งเตือนประชาชนใน 4 อำเภอ คือ อ.ตะกั่วป่า, คุระบุรี, กะปง และอ.ท้ายเหมือง เป็นพื้นที่เฝ้าระวังดินโคลนถล่ม น้ำป่าไหลหลาก และต้องติดตามอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง เช่นเดียวกับจ.ระนอง, จ.สตูล ที่ได้รับคำเตือนให้ระวังฝนตกหนัก คลื่มแรงไปจนถึงวันที่ 15 กันยายน
ส่วนภาคเหนือ หลังกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตือนประชาชน 26 จังหวัด ให้เตรียมรับภาวะฝนตกหนักตั้งวันที่11 - 15 กันยายนนี้ ทำให้หลายพื้นที่เสี่ยงในภาคเหนือ เร่งเตรียมรับมือ โดยเฉพาะต.แม่งอน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเคยประสบภัยพิบัติรุนแรงเมื่อปี 2549 เช่นเดียวกับจ.แพร่ และเชียงราย เจ้าหน้าต้องเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีพื้นที่เสี่ยงหลายจุด
ขณะที่จ.หนองคาย ระดับน้ำโขงที่ยังคงสูง ทำให้ลำน้ำสาขาระบายลงสู่แม่น้ำโขงไม่ได้ โดยเฉพาะลำน้ำสวย ได้เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรใน 3 อำเภอ คือ อ.โพนพิสัย, อ.สระใคร และอ.เมือง เสียหายแล้วหลายร้อยไร่
เช่นเดียวกับถนนสายอ.ทุ่งเขาหลวง เชื่อมต่อ อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด ที่ถูกน้ำกัดเซาะขาดเกือบ 50 เมตร จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าไปซ่อมแซมได้ เนื่องจากระดับน้ำสูงเกือบ 2 เมตร