เตือนคนอีสาน-ภาคตะวันออก ระวังฝนตกหนัก น้ำท่วม กรมทางหลวงแนะเลี่ยงถนนที่รถขับผ่านไม่ได้ 6 เส้นทาง
เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายไพบูลย์ ดอนศรีจันทร์ ผู้อำนวยการสำนักตรวจราชการ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้ช่วยเลขานุการ ศชอ. เป็นประธานการประชุมศูนย์ประสานการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย (ศชอ.) แจ้งเตือนภัยประชาชนที่อยู่ใน จ.หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ นครนายก ระยอง จันทบุรี และ ตราด อาจจะมีฝนตกหนักในระยะ 1-2 วันนี้ รวมทั้งเฝ้าระวังพื้นที่บริเวณลุ่มต่ำริมแม่น้ำยม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก และ อ.สามง่าม จ.พิจิตร จะได้รับผลกระทบภายใน 2-3 วัน
สำหรับสภาพอากาศ หย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบนมีกำลังแรงและมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยยังคงมีกำลังแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือบริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และภาคตะวันออก บริเวณจังหวัดนครนายก จันทบุรี มีปริมาณฝนมากขึ้นโดยเฉพาะบริเวณเทือกเขาภูพาน จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ราบลุ่มบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งในระยะนี้
ด้านการเตือนภัย จ.หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ นครนายก ระยอง จันทบุรี และ ตราด อาจจะมีฝนตกหนักในระยะ 1-2 วัน
ส่วนการเฝ้าระวัง ในพื้นที่บริเวณลุ่มต่ำริมแม่น้ำยม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก และ อ.สามง่าม จ.พิจิตร จะได้รับผลกระทบภายใน 2-3 วัน ขอให้ประชาชนที่อยู่บริเวณดังกล่าวเฝ้าระวังเตรียมเก็บข้าวของและขนย้ายสัตว์เลี้ยงขึ้นที่สูง
เส้นทางคมนาคม มีน้ำท่วม จ.น่าน และ จ.สุโขทัย ทำให้เส้นทางของกรมทางหลวงสภาพการจราจรผ่านไม่ได้ ดังนี้
1.ทางหลวงหมายเลข ๑๑๖๘ น่าน-แม่จริม อ.ภูเพียง กม.๐ – ๒ น้ำท่วมสูง ๗๐ ซม.
2.ทางหลวงหมายเลข ๑๑๖๙ ท่าล้อ-น้ำยาว อ.ภูเพียง กม.๐ – ๑ น้ำท่วมสูง ๕๐ ซม.
3.ทางหลวงหมายเลข ๑๒๕๖ ปัว – บ่อเกลือ กม.๒๒ และ กม.๑
4.ทางหลวงหมายเลข ๑๐๑ ทางเลี่ยงเมืองสุโขทัย กม.๒ – ๓ จ.สุโขทัย น้ำท่วมสูง ๘๕ ซม.
5.ทางหลวงหมายเลข ๑๑๙๕ สวรรคโลก – สุโขทัย กม.๓๐ – ๓๖ น้ำท่วมสูง ๘๐ ซม.
6.ทางหลวงหมายเลข ๑๒๙๓ สุโขทัย – พิษณุโลก กม. ๘ – ๑๑ น้ำท่วมสูง ๔๐ ซม.
กรมทางหลวงสรุปความเสียหายเนื่องจากอุทกภัย ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. – 1ก.ค.2554มีพื้นที่ประสบ อุทกภัย 29 จังหวัด 92 สายทาง เสียหาย 203 แห่ง