การชุมนุมอีกครั้งของชาวสวนยางพารา ในต.ควนหนองหงษ์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ในวันนี้ (8 ต.ค.) โดยยืนยันว่าจะไม่ปิดถนน แต่ชุมนุม เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาราคายางพาราอย่างเป็นระบบ นอกเหนือจากมาตรการจ่ายเงินชดเชยค่าปัจจัยการผลิต ไร่ละ 2,520 บาท ที่ขณะนี้มีชาวสวนยางได้รับเงินไปแล้ว 891 ราย จากผู้ลงทะเบียนกว่า120,000 คน ซึ่งการชุมนุมวันพรุ่งนี้ผู้ชุมนุมอาจเปลี่ยนสถานที่ไปที่แยกทุ่งโป๊ะ ห่างจากแยกควนหนองหงษ์ประมาณ 3 กิโลเมตร ขณะที่เจ้าหน้าที่เตรียมแผนรับสถานการณ์หากผู้ชุมนุมปิดการจราจร
นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ขอร้องกลุ่มชาวสวนยาง ให้ชุมนุมอยู่ในกรอบของกฎหมาย พร้อมกับสั่งห้ามใช้กำลังกับผู้ชุมนุม แต่ให้ทำความเข้าใจ และเร่งการจ่ายเงินชดเชยค่าปัจจัยการผลิตให้เร็วที่สุด เนื่องจากเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น 2 ครั้งก่อนหน้านี้ นำมาซึ่งความสูญเสียทั้งสองฝ่าย โดยต้องเร่งสร้างความสัมพันธ์ระหว่างชาวบ้านกับข้าราชการ
ส่วนการลงทะเบียนเกษตรกรที่ปลูกยางพารา เพื่อรับเงินช่วยเหลือเป็นปัจจัยการผลิตไร่ละ 2,520 บาท ซึ่งหลายจังหวัดยังมีปัญหากันอยู่ นายพงศ์นิมิต แก้วแดง ประธานเครือข่ายเกษตรกรสถาบันเกษตรกรด้านยางพาราครบวงจร จ.อุตรดิตถ์ เปิดเผยว่า ได้เรียกร้องรัฐบาลขยายระยะเวลาในการลงทะเบียนเกษตรกรที่ปลูกยางพารา ออกไปถึงวันที่ 15 ตุลาคม หลังที่ปิดการลงทะเบียนไปแล้วเมื่อวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา เพราะยังมีเกษตรกรอีกจำนวนมากที่ยังลงทะเบียนไม่ทัน
ทั้งนี้ จากการติดตามสอบถามไปยังธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรทราบว่า ยังไม่มีเงินจากรัฐบาลโอนเข้าเพื่อจ่ายชดเชยปัจจัยการผลิตให้กับเกษตรกรชาวสวนแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามหากสิ้นเดือนตุลาคมนี้แล้วยังไม่จ่ายก็จะหารือแกนนำทั้ง 17 จังหวัดภาคเหนือ เพื่อประชุมหารือและกดดันรัฐบาลต่อไป
สำหรับความคืบหน้าการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา เพื่อรับเงินช่วยเหลือไร่ละ 2,520 บาท ตามโครงการแก้ไขปัญหายางพาราทั้งระบบปี 2557 ซึ่งรับขึ้นทะเบียนมาตั้งแต่วันที่ 4 กันยายน 2556 จนถึงวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมามีเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรแล้วจำนวน 1.9 ล้าน ครัวเรือน คิดเป็นร้อยละ 92 ของครัวเรือนเป้าหมาย จำนวน 1.17 ล้านครัวเรือน