ภาพเชิงซ้อนนิติเวช ช่วยไขคดีการเสียชีวิต

งานนิติวิทยาศาสตร์ ถือว่า เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยในการหาสาเหตุการเสียชีวิตที่ผิดปกติของมนุษย์ หรือถูกฆาตกรรม จนนำไปสู่การคลี่คลายคดีจนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีได้ สถาบันนิติวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ก็เป็นอีกแห่งที่ให้บริการการตรวจพิสูจน์ร่างผู้เสียชีวิตโดยใช้เครื่องมือที่ทันสมัย เช่น เครื่องตรวจภาพเชิงซ้อน ที่มีใช้อยู่แห่งเดียวในประเทศไทย

เทคนิคการทำภาพเชิงซ้อน เป็นอีก 1 วิธีในการพิสูจน์ศพนิรนาม ที่นำมาใช้ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เป็นที่แรกและที่เดียวในประเทศไทย มากว่า 40 ปี การตรวจพิสูจน์จะนำส่วนกะโหลกศีรษะที่สมบูรณ์ของศพนิรนาม มาซ้อนกับภาพถ่ายของบุคคลที่ต้องการหา เพื่อวิเคราะห์ตามหลักกายวิภาค 11 จุด โดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยประมวลผล

ทั้งนี้ ในทุกทุก10 ปี เครื่องมือเหล่านี้จะถูกเปลี่ยนให้ทันต่อเทคโนโลยี จากเดิมที่จะต้องใช้เวลา 3 เดือน จึงจะทราบผลการวิเคราะห์ ด้วยระบบถ่ายภาพเชิงซ้อนกับฟิล์มเนกาทีฟ ก็เปลี่ยนมาเป็นระบบดิจิตอล ที่สามารถทราบผลภายใน 3 วัน โดยสามารถยืนยันตัวบุคคลได้มากถึง 50 - 80 %
 

 
การชันสูตรพลิกศพ เป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม. 148  ม.156 โดยสามารถกระทำได้ 2 กรณี คือ การตายโดยผิดธรรมชาติ ทั้งการฆ่าตัวตาย ถูกฆาตกรรม ถูกสัตว์ทำร้าย อุบัติเหตุ และตายโดยไม่ทราบสาเหตุ ส่วนกรณีที่ 2 ระหว่างการควบคุมของเจ้าหน้าที่รัฐ คือ การตายของนักโทษในเรือนจำ หรือ ถูกวิสามัญฆาตกรรม โดยในแต่ละปีมีผู้เสียชีวิต ที่ถูกส่งมาตรวจพิสูจน์ กว่า 6,000 ราย

สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ถือเป็นหน่วยงานกลางในการตรวจพิสูจน์ข้อเท็จจริง สาเหตุการเสียชีวิต นอกจากการถ่ายภาพเชิงซ้อน ยังสามารถตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ จากคราบเลือด หรือสารคัดหลั่งที่ติดอยู่บนเสื้อผ้าของศพ ที่ใช้เป็นหลักฐานเชื่อมโยงถึงผู้ก่อเหตุ จนนำไปสู่การคลี่คลายคดี