ชาวสวนยางพารา 16 จังหวัดภาคใต้กลับมายึด 5 ข้อเรียกร้องเดิม
วันนี้ (29 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสรายงานว่า หลังจากภาคีเครือข่ายเกษตรชาวสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน 16 จังหวัดภาคใต้มีท่าทีที่อ่อนลงเมื่อวานนี้ (28 ต.ค.) โดยลดข้อเรียกร้องเหลือเพียงการให้รัฐบาลจ่ายเงินชดเชยให้กับชาวสวนยางพาราที่ไม่มีเอกสารสิทธิเท่านั้น แต่วันนี้ (29 ต.ค.) กลับมามีท่าทีที่แข็งกร้าวขึ้น หลังจากช่วงสายที่ผ่านมาแกนนำได้พูดคุยโทรศัพท์กับ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี โดยทาง พล.ต.อ.ประชา ได้ขอให้แกนนำยื่นข้อเรียกร้องที่ชัดเจนกลับมายังรัฐบาลอีกครั้ง ซึ่งทำให้ทางแกนนำภาคีเครือข่ายเกษตรชาวสวนยางพาราฯ ได้กลับมายึดข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลเป็น 5 ข้อเหมือนเดิม
รวมถึง ผลการเจรจาภายหลังการหารือกับ นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวานนี้ (28 ต.ค.) ไม่เป็นที่พอใจกับผู้ชุมนุม ทางแกนนำจึงกลับมายึดข้อเรียกร้อง 5 ข้อตามเดิม โดยให้รัฐบาลรับซื้อยางพาราที่กิโลกรัมละ 100 บาท และปาล์มน้ำมันกิโลกรัมละ 6 บาท และการโยกย้าย พล.ต.ต.ธเนษฐ สุนทรสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ การตั้งคณะกรรมการรับร้องสิทธิของชาวสวนยางพาราที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ และเรียกร้องให้รัฐบาลไม่เอาผิดกับแกนนำและชาวสวนยางพาราที่ออกมาชุมนุม
ทั้งนี้ ภาคีเครือข่ายเกษตรชาวสวนยางฯ ได้กำหนดให้รัฐบาลตอบรับข้อเรียกร้องโดยไม่มีเงื่อนไขภายในเวลา 18.00 น.วันนี้ (29 ต.ค.) หากรัฐบาลไม่ตอบรับจะยกระดับการชุมนุมขึ้นทันที นอกจากนี้ยังมั่นใจว่า จะสามารถรวบรวมชาวสวนยางในจังหวัดอื่น ๆ ให้เข้าร่วมชุมนุมได้ อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อกังวลทั้งจากกลุ่มผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ว่าอาจมีการใช้ความรุนแรงเกิดขึ้น