ฟิลิปปินส์ระบุโลกล้มเหลวในการแก้ภาวะโลกร้อน
การประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ซึ่งปีนี้จัดขึ้นในกรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ นางแมรี่ เชอร์ริ่ง ตัวแทนจากประเทศฟิลิปปินส์ กล่าวว่า การเจรจาโดยไร้แนวทางปฏิบัติที่จริงจัง เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะโลกร้อน การเจรจาในลักษณะนี้ไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆ กับประเทศกำลังพัฒนาที่ต้องเผชิญกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ พร้อมยกตัวอย่างประเทศฟิลิปปินส์ที่เพิ่งเผชิญกับพายุไต้ฝุ่น "ไห่เยี่ยน" ซึ่งเป็นพายุลูกที่ 24 ของปีนี้ ทั้งๆ ที่ตามปกติแล้ว ฟิลิปปินส์จะเผชิญกับพายุปีละประมาณ 19-20 ลูกเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีพายุเฮอริเคนแคทริน่าในสหรัฐฯ , คลื่นความร้อนในฝรั่งเศส และไฟป่าในออสเตรเลีย ล้วนแต่เป็นภัยธรรมชาติที่ทวีความรุนแรงซึ่งเป็นผลมาจากภาวะโลกร้อน
ขณะที่ชาติสมาชิกของยูเอ็นซึ่งร่วมกันลงนามในพิธีสารเกียวโต ตั้งแต่ปี 2540 กลับไม่มีการดำเนินงานที่ชัดเจน ดังนั้นจึงถือเป็นความล้มเหลวอย่างน่าเศร้า
นอกจากนี้บรรดาประเทศที่พัฒนาแล้วก็ตกเป็นเป้าโจมตี เนื่องจากไม่มีประเทศใดที่แสดงความมุ่งมั่นในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งบรรดานักวิทยาศาสตร์มองว่าการเพิกเฉยของประเทศที่พัฒนาแล้ว จะยิ่งทำให้โลกเผชิญกับภัยธรรมชาติที่รุนแรงมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคลื่นความร้อน, ความแห้งแล้ง, น้ำท่วม และระดับน้ำทะเลที่เพิ่มขึ้น
ส่วนที่สนามบินในเมืองทาโคลบัน ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นเมืองที่ได้รับความเสียหายมากที่สุด ยังคงมีผู้ประสบภัยจำนวนมากที่เดินทางไปเข้าคิวรอขึ้นเครื่องบิน เพื่อย้ายไปอยู่ที่กรุงมะนิลาหรือเมืองเซบู เมืองใหญ่อันดับ 2 ซึ่งขณะนี้ระบบการทำงานของสนามบินดีขึ้นกว่าตอนแรกๆ ที่เกิดวาตภัย แต่การทำงานก็ยังไม่สมบูรณ์เต็มร้อย
วันนี้ (21 พ.ย.) กองทัพเรือของจีน ได้ส่งเรือซึ่งภายในถูกออกแบบเป็นโรงพยาบาลที่รองรับผู้ป่วยได้ 300 เตียง มีห้องผ่าตัด 8 ห้องและบุคลากรทางการแพทย์ 106 คน เรือดังกล่าวเดินทางออกจากมณฑลเจ้อเจียงวันนี้ โดยจะใช้เวลาเดินทางกว่า 3 วัน จะถึงเกาะซามาร์ของฟิลิปปินส์ ขณะที่สภากาชาดของจีนได้ส่งทีมบรรเทาทุกข์ 2 ทีมไปฟิลิปปินส์แล้วก่อนหน้านี้