มาตรการรักษาความปลอดภัยการชุมนุมเวทีศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะวันนี้ (6 ธ.ค.) ถูกยกระดับให้เข้มข้นรัดกุมขึ้นจากหลายวันก่อนหน้านี้ นอกจากการตรวจค้นร่างกายแล้ว ยังมีการตรวจสอบกระเป๋า และสัมภาระของผู้เข้าร่วมการชุมนุมด้วย ซึ่งเป็นมาตรการที่เข้มข้นขึ้นหลังเกิดเหตุก่อกวนการชุมนุม และการขว้างระเบิดปิงปองใส่เวทีกระทรวงการคลัง และเวทีราชดำเนินเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา (5 ธ.ค.)
ขณะที่แกนนำกลุ่มกปปส. โดยเฉพาะนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส. วันนี้อยู่ที่ศูนย์ราชการตลอดทั้งวัน เพื่อหารือกับแกนนำคนอื่นๆ ร่วมกันประเมินสถานการณ์การชุมนุม รวมถึงแนวทางในการเคลื่อนไหว โดยเป็นที่น่าสังเกตถึงการประชุมวันนี้ที่ถูกปกปิดเป็นความลับมากขึ้น ห้องที่ถูกใช้ประชุมมีการปิดกั้นอย่างมิดชิด และตลอดทั้งวันก็ยังไม่มีความเห็นใดๆจากนายสุเทพ โดยผลของการหารือกันตลอดทั้งวันนี้ นายสุเทพจะขึ้นเวทีในเวลา 19.30 น. เพื่อเปิดเผยแผนขั้นสุดท้ายในการกดดันให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พ้นจากตำแหน่ง เพื่อเปิดทางสู่การจัดตั้งสภาประชาชน และการคัดสรรนายกรัฐมนตรีที่มีความเป็นกลาง ตามการอ้างอิงรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 และ มาตรา 7 ซึ่งทุกมาตรการจะถูกเพิ่มระดับเข้มข้นสูงสุด
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษกกปปส. ย้ำถึงข้อเสนอที่มีข้อกฎหมายรองรับ และเกิดจากการที่รัฐบาลและรัฐสภา หมดความชอบธรรมทั้งในทางกฎหมาย และทางการเมืองแล้ว พร้อมกับปฏิเสธข้อเสนอของพรรคเพื่อไทย ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 เพื่อจัดตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร.ยกร่างแก้ไขทั้งฉบับ เพราะเชื่อว่าท้ายสุด ส.ส.ร.จะถูกครอบงำจากรัฐบาล และดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์ของรัฐบาล
โฆษก กปปส. ชี้ว่าขณะนี้มีความพยายามบั่นทอนกำลังผู้ชุมนุม โดยสร้างความหวาดกลัว สร้างสถานการณ์ให้รุนแรงมากขึ้น และอ้างอิงท่าทีของนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี หรือในฐานะ ผอ.ศอ.รส. ที่ข่มขู่ผู้ชุมุนม สะท้อนว่ารัฐบาลพยายามสร้างสถานการณ์ให้เห็นถึงความรุนแรง เพื่อเจตนาในการเข้าปราบปรามประชาชน แต่ย้ำว่าผู้ชุมนุมยังยึดหลักสันติ อหิงสา ปราศจากอาวุธ และจะไม่ใช้ความรุนแรงตอบโต้เจ้าหน้าที่ โดยมั่นใจในการแนวทางและแผนปฏิบัติ จะสามารถบรรลุเป้าหมายขั้นสูงสุดได้ก่อนวันที่ 12 ธันวาคมนี้