เวทีเสวนาปฏิรูปประเทศเสนอ "ทางออกประเทศ" หลากหลาย-หนุนทำก่อนเลือกตั้ง

 

นายอนุสรณ์ ธรรมใจ นักวิชาการ เห็นด้วยที่ต้องมีการปฏิรูปประเทศก่อนการเลือกตั้ง แต่ทั้งนี้ ทุกอย่างจะต้องดำเนินไปอย่างรอบคอบ รอบด้าน และเป็นไปตามเสียงของประชาชนอย่างแท้จริง ซึ่งอาจต้องมีการลงสัตยาบัน รวมถึงตั้งคณะกรรมการจากบุคคลทุกฝ่าย และทำงานร่วมกับกตต. ตลอดจนการจัดตั้งสำนักงานสภาประชาชน เพื่อให้เกิดการทำงานอย่างเป็นรูปธรรม เช่นเดียวกับเพิ่มศักดิ์ มกราภิรมย์ ระบุว่า เสนอว่าการปฏิรูปต้องทำให้ครอบคลุม 3 ประเด็น คือ การเลือกตั้ง, การขจัดคอร์รัปชั่น และกระจายอำนาจ ด้านส.ว.นั้น เห็นด้วยกับแนวทางการปฏิรูป แต่ต้องเป็นการปฏิรูปรัฐธรรมนูญปี 2550 ทั้งฉบับ 

    

 

ทั้งนี้ มีความเห็นจากกลุ่มต่าง ๆ ว่าต้องการเห็นด้วยกับการปฏิรูป แต่ต้องให้เลื่อนวันเลือกตั้ง สอดคล้องกับนายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ ส.ว.ในเลื่อนวันเลือกตั้งออก

เกชา เสนอเลื่อนเลือกตั้งออกไปอีก 1 ปี เพื่อรอให้กระบวนการปฏิรูปการแล้วเสร็จ เช่นเดียวกับรศ.ดร.เจษฏ์ โทณวณิก นักวิชาการนิติศาสตร์ ระบุว่า การเลื่อนวันเลือกตั้งนั้นสามารถทำได้ เพราะมีกฏหมายเปิดช่องให้ดำเนินการ

 

ขณะที่ตัวแทนจากพรรคการเมือง นายโสภณ ซารัมย์ จากพรรคภูมิใจไทย ย้ำจุดยืนพรรค ต่อแนวทางการเลือกตั้ง ซึ่งต้องไม่เกิดขึ้นบนความขัดแย้ง รวมถึงต้องการให้การตกลงกันก่อนการเลือกตั้ง 

 

ด้านนายวีระกาต์  มุสิกพงษ์ ตัวแทนกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ระบุว่า การปฏิรูปการเมืองเป็นเรื่องที่รีบร้อนไม่ได้ ซึ่งพบว่า ขณะนี้มีปัญหาเฉพาะบางกลุ่มที่เรียกร้องเท่านั้น และแม้ว่าตนเองจะไม่ชอบรัฐธรรมนูญ แต่ก็อยากให้ทุกฝ่ายเคารพ

    

 

ส่วนตัวแทนจากสำนักงานตำรวจแก่งชาติ (สตช.) พล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช กต.ตร. กล่าวว่า ตำรวจต้องการเห็นการปฏิรูปต้องเป็นไปในทุกระบบ เพราะไม่ว่าจะมีเกิดขึ้น ดังนั้น ตำรวจเป็นผู้ไม่มีสี ไม่มีข้าง

 

อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่าย เวทีการเสวนาจะดำเนินการต่อ โดยจะระดมความเห็นในเชิงลึก รวมถึงเงื่อนไขด้านเวลาต่าง ๆ ด้วย