"เมอร์ด็อก" ยันไม่รู้เรื่อง นสพ.นิวส์ออฟเดอะเวิลด์ ดักฟังโทรศัพท์

ต่างประเทศ
20 ก.ค. 54
03:49
16
Logo Thai PBS
"เมอร์ด็อก" ยันไม่รู้เรื่อง นสพ.นิวส์ออฟเดอะเวิลด์ ดักฟังโทรศัพท์

รูเพิร์ท เมอร์ด็อก ปฏิเสธว่า ไม่รู้เรื่องราวการดักฟังโทรศัพท์ภายในเครือหนังสือพิมพ์ของเขาที่เข้ามาประกอบการในอังกฤษ ดังนั้นจึงไม่สมควรต้องเป็นผู้รับผิดชอบ

เป็นครั้งแรกในรอบกว่า40 ปีที่นายรูเพิร์ท เมอร์ด็อก มหาเศรษฐีเจ้าพ่อวงการสื่อชาวอเมริกันวัย 80 ปี ซึ่งเข้ามามีกิจการสื่อมวลชนในอังกฤษ ต้องเข้ามาให้ปากคำต่อคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎร

นายรูเพิร์ท ยืนกรานว่า เขาไม่ควรจะต้องถูกกล่าวโทษหรือรับผิดชอบเพราะไม่ได้รู้เรื่องราวหรือสั่งให้หนังสือพิมพ์ของเขาใช้วิธีดักฟังโทรศัพท์เพื่อนำมาเป็นข่าวออกขาย อย่างไรก็ตาม นายรูเพิร์ท ระบุว่า ตัวเขาเองก็รู้สึกช็อก และ ละอายใจเป็นอย่างยิ่งในกรณีหนังสือพิมพ์นิวส์ออฟเดอะเวิลด์ลอบเข้าไปเปลี่ยนแปลงหลักฐานในคดีฆาตกรรมเด็กนักเรียนหญิงอายุ 13 ปีจนทำให้พ่อแม่ของเด็กหญิงมีความหวังมาคตลอด 8 ปีว่า บุตรสาวยังมีชีวิต แต่สุดท้ายธุรกิจของเขาก็ได้ทำลายความหวังนั้นสิ้นไป

นายรูเพิร์ท รีบรุดมายังอังกฤษหลังจากเรื่องการดักฟังโทรศัพท์แดงขึ้น โดยมีการเชื่อกันว่า การตัดสินใจปิดตัวเองของหนังสือพิมพ์นิวส์ออฟเดอะเวิลด์ เป็นแผนสละสิ่งเล็กน้อยเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ใหญ่กว่า คือ การประมูลซื้อหุ้นเพิ่มทุนเพื่อเข้าครอบงำกิจการ"บริติช สกาย บรอดคาสติ้ง" ซึ่งรับรู้กันโดยทั่วไปว่า จะสร้างกำไรให้อย่างมหาศาล ซึ่งเหตุนี้ทำให้ชาวอังกฤษเกิดความรู้สึกต่อต้านนายรูเพิร์ทอย่างกว้างขวาง จนกระทั่งกลับสหรัฐไปเมื่อวานนี้

ด้านนางรีเบคก้า บรุ๊คส์ อดีตหัวหน้ากิจการสื่อในอังกฤษของนายรูเพิร์ทกล่าวว่า เธอไม่เคยติดสินบนตำรวจเพื่อให้ได้ความลับมาเขียนเป็นข่าว และ เมื่อเรื่องการดักฟังโทรศัพท์แดงขึ้น เธอในฐานะผู้บริหารกิจการของนายรูเพิร์ทในอังกฤษได้ดำเนินการอย่างฉับพลันและเด็ดขาด โดยประเด็นร้อนแรงที่สุดของเรื่องนี้ในขณะนี้ก็คือ อดีตบรรณาธิการนิวส์ออฟเดอะเวิลด์ที่นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอนจ้างเข้ามาเป็นหัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ อาจให้ข้อมูลผิดกฏหมายหรือผิดทำนองครองธรรมแก่นายคาเมรอนก่อนที่จะชนะการเลือกตั้งเข้ามาเป็นรัฐบาลเวลานี้
 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง