รง.ยาสูบทุ่ม 10 ล้านจ่ายรางวัลนำจับบุหรี่เถื่อน คาดทะลักเข้าทางชายแดนหลังขึ้นราคา

สังคม
25 ก.พ. 59
14:57
1,025
Logo Thai PBS
รง.ยาสูบทุ่ม 10 ล้านจ่ายรางวัลนำจับบุหรี่เถื่อน คาดทะลักเข้าทางชายแดนหลังขึ้นราคา
“โรงงานยาสูบ” ทุ่มงบฯ 10 ล้าน จ่ายเงินรางวัลเจ้าหน้าที่รัฐปราบปรามบุหรี่ต่างประเทศผิดกฎหมาย หลังรัฐบาลประกาศปรับขึ้นราคา-ภาษี

วันนี้ (25 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสรายงานว่า ภายหลังรัฐบาลประกาศปรับขึ้นอัตราภาษีสรรพสามิตทำให้มีการปรับราคาบุหรี่ในอัตราที่สูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้บุหรี่ต่างประเทศผิดกฎหมายทะลักเข้ามาตามแนวชายแดนและขยายตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของชาติ โรงงานยาสูบในฐานะหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่ผลิตและจำหน่ายบุหรี่เพื่อนำส่งรายได้ให้แก่รัฐ เล็งเห็นว่าบุหรี่ต่างประเทศผิดกฎหมายทำให้รัฐสูญเสียรายได้จากการจัดเก็บภาษีในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก ล่าสุด โรงงานยาสูบได้ประกาศเพิ่มเงินรางวัลให้แก่เจ้าหน้าที่ภาครัฐในการปราบปรามบุหรี่ต่างประเทศ ผิดกฎหมายในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ

น.ส.ดาวน้อย สุทธินิภาพันธ์ ผู้อำนวยการยาสูบ เปิดเผยว่า โรงงานยาสูบพร้อมที่จะช่วยเหลือภาครัฐในการเฝ้าระวังและตรวจสอบบุหรี่ผิดกฎหมายที่มีการลักลอบนำมาขายในประเทศไทย เพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจ สร้างขวัญกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ภาครัฐในการปราบปราม จับกุมบุหรี่ผิดกฎหมายอย่างจริงจัง โรงงานยาสูบจึงจัดสรรงบประมาณเพื่อสนับสนุนเงินรางวัลให้แก่เจ้าหน้าที่ภาครัฐ ในวงเงินทั้งสิ้น 10,000,000 บาท

 

สำหรับเกณฑ์ในการจ่ายเงินรางวัลในการปราบปรามบุหรี่ต่างประเทศผิดกฎหมาย โรงงานยาสูบจะจ่ายให้กับเจ้าหน้าที่สรรพสามิต ศุลกากร ตำรวจ ทหาร ทั่วประเทศ ที่สามารถจับกุมบุหรี่ต่างประเทศผิดกฎหมาย จำนวนซองละ 3 บาท หรือหีบละ 1,500 บาท โดยหากจับกุมได้ครบทั้งหีบ (500 ซอง) จะจ่ายเงินรางวัลพิเศษเพิ่มอีก 1,000 บาท รวมเป็นเงิน 2,500 บาท และกรณีที่จับกุมได้ครั้งละ 50 หีบ (25,000 ซอง) ไม่ว่าจะมีตัวผู้ต้องหาหรือไม่มีตัวผู้ต้องหาก็ตาม โรงงานยาสูบจะจ่ายเงินรางวัลพิเศษเพิ่มอีก 50,000 บาท/ 50 หีบ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 175,000 บาท ทั้งนี้ ต้องสามารถจับกุมได้ตั้งแต่ 3 หีบขึ้นไป จึงจะเข้าเกณฑ์การจ่ายเงินรางวัลตามโครงการนี้

ผู้อำนวยการยาสูบกล่าวด้วยว่า โครงการเพิ่มงบประมาณสนับสนุนเงินรางวัลในครั้งนี้ ได้ดำเนินการแล้วทันทีหลังจากรัฐบาลประกาศขึ้นภาษีสรรพสามิตบุหรี่ ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ.2559 ไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย.2559 รวมระยะเวลาประมาณ 8 เดือน และหากสามารถปราบปรามบุหรี่ต่างประเทศผิดกฎหมายให้ลดลงได้อย่างต่อเนื่อง ก็อาจจะขยายโครงการนี้ต่อไปในอนาคต โดยคาดหวังว่าจะทำให้จำนวนบุหรี่ผิดกฎหมายในประเทศมีปริมาณลดลง และช่วยภาครัฐไม่ให้สูญเสียรายได้ในระยะยาวต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง