ย้อนรอยนักกีฬาชื่อดังใช้ "สารต้องห้าม"

กีฬา
9 มี.ค. 59
20:29
4,472
Logo Thai PBS
ย้อนรอยนักกีฬาชื่อดังใช้ "สารต้องห้าม"
สำหรับกรณีการถูกตรวจพบการใช้สารต้องห้ามของ "มาเรีย ชาราโปวา" ไม่ถือเป็นเรื่องใหม่ในวงการ เนื่องจากที่ผ่านมาเคยมีนักกีฬาระดับโลกมากมายถูกลงโทษแบนเพราะประเด็นนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์

กรณีของชาราโปวามีการตรวจพบสาร "เมลโดเนียม" (meldonium) ที่เธออ้างว่าใช้มานานนับ 10 ปี ตามที่แพทย์สั่งเพื่อรักษาความเจ็บป่วยหลายอย่าง รวมทั้งอาการของโรคเบาหวานและปัญหาความผิดปกติด้านหัวใจ ซึ่งสารชนิดนี้เพิ่งถูก องค์กรต่อต้านการใช้สารกระตุ้นโลก (WADA) ขึ้นบัญชีเป็นสารต้องห้ามเมื่อวันที่ 1 ม.ค.2559 หลังผลการวิจัยเพิ่งพบว่า สารชนิดนี้มีส่วนช่วยให้ร่างกายของนักกีฬาดูดซึมออกซิเจนได้ดีขึ้นจึงทำให้ร่างกายมีความอึดมากขึ้น โดยชาราโปวายอมรับว่าเธอถูกแบนเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์และไม่ได้ตรวจสอบรายชื่อบัญชีสารต้องห้ามล่าสุดที่ WADA ประกาศ

 

ก่อนหน้านี้ ลี ชอง เหว่ย นักแบดมินตันชื่อดังชาวมาเลเซีย ถูกตรวจพบการใช้สารเดกซาเมทาโซน (Dexamethasone) ซึ่งเป็นสารที่ต้องห้ามที่ช่วยลดอาการอักเสบและติดเชื้อ เขาได้รับสารตัวนี้จากการเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งแบบรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทำให้ ลี ชอง เหว่ย ถูกแบนห้ามลงแข่งนาน 8 เดือน และยึดเหรียญเงินที่ได้จากการแข่งชิงแชมป์โลกในปี 2014

นอกจากนี้ นักฟุตบอลทีมชาติเม็กซิโก 5 คน ถูกบังคับให้ถอนตัวจากการแข่งขันคอนคาเคฟ โกลด์ คัพ ในปี 2011 หลังถูกตรวจพบสารต้องห้าม เคลนบูเทอรอล (Clenbuterol) ที่มีส่วนช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อแต่นักเตะกลุ่มดังกล่าว ไม่ถูกลงโทษแบนหลังพิสูจน์ได้ว่า มีสารต้องห้ามในร่างกายเนื่องจากรับประทานเนื้อสัตว์ที่ถูกเลี้ยงมาด้วยสารชนิดนี้

 

กรณีตรวจพบสารต้องห้ามเกิดขึ้นกับนักกีฬาไทยเช่นเดียวกัน "เจมส์บอนด์" ณัฐพงษ์ เกษอินทร์ นักว่ายน้ำทีมชาติไทย ถูกตรวจพบสารเคลนบูเทอรอลระหว่างลงแข่งซีเกมส์ ที่สิงคโปร์ จนต้องถอนตัวจากการแข่งขันถึง 4 รายการ ต่อมาทาง การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) สั่งห้ามณัฐพงษ์ลงแข่งเป็นเวลา 4 ปี แม้จะอ้างว่าได้รับสารต้องห้ามจากการรับประทานเนื้อสัตว์ที่มีสารปนเปื้อนก็ตาม

ล่าสุด คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย เตือนนักกีฬาที่จะเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ห้ามรับประทานยาหรืออาหารเสริมโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือหากจำเป็นจะต้องใช้ยาใดๆ จะต้องผ่านการปรึกษากับคณะแพทย์ของการกีฬาแห่งประเทศไทยเสียก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายได้รับสารกระตุ้นโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง