กระแสความคลั่งไคล้ของแฟนหนัง Star Wars: the Force Awakens คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจโรงภาพยนตร์ปีนี้ มีรายได้เพิ่มขึ้นราวร้อยละ 17.3 ในอังกฤษ แต่นอกเหนือไปจากภาพยนตร์ชั้นเยี่ยมเรื่องใหม่ๆ ความหวังของเจ้าของโรงหนังสมัยใหม่ ยังฝากไว้กับระบบสี่มิติ ที่จะช่วยดึงดูดผู้ชมให้ยอมออกจากบ้านมาซื้อตั๋วราคาสูง เพื่อรับชมภาพยนตร์ในแบบครบทุกสัมผัสด้วย
แม้ที่นั่งของโรงหนังสี่มิติในปัจจุบัน จะขยับได้สูงสุดเพียง 3.8 เซนติเมตร แต่ Michel Paquette ประธานฝ่ายการตลาดของบริษัท D-Box ในแคนาดา ยืนยันว่าการผสมผสานไปกับสื่อภาพและเสียง จะช่วยหลอกสมองให้รู้สึกสมจริงเหมือนอยู่ในหนัง ด้วยการออกแบบสัมผัสต่างๆ ที่มากกว่าการขยับเก้าอี้ไปมา เช่นในเรื่อง The Walk หนังปี 2015 ที่เล่าเรื่องราวของนักไต่ลวดชื่อดัง ซึ่งผู้ชมจะสามารถรู้สึกถึงแรงกดดันของลวดได้จริง ขณะที่ 4DX อีกบริษัทในเกาหลีใต้ ก็พัฒนาระบบสี่มิติให้ไกลกว่าเดิม ด้วยการทำสื่อผสมในแบบสวนสนุก ที่จะมีทั้งการเป่าลม น้ำ กลิ่น ไปจนถึงหมอกและฟองอากาศเพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับชม
ปัจจุบันโรงหนังในระบบสี่มิติมีอยู่ราว 1,000 โรงจากทั่วโลก คิดเป็นสัดส่วนเพียงร้อยละ 1 จากทั้งหมด แต่การเติบโตที่รวดเร็วของระบบสี่มิติ ทำให้นักวิเคราะห์มองว่าจะนี่จะเข้ามาเป็นอนาคตของอุตสาหกรรมบันเทิง โดยมีตลาดใหญ่คือชาวจีน ด้วยพลังจากกลุ่มธุรกิจบันเทิงวั่นต๋าที่ใช้ระบบสี่มิติเป็นยุทธศาสตร์หลักในการขับเคลื่อนเครือข่ายโรงภาพยนตร์ เช่นเดียวกับเหล่าค่ายหนังที่ปรับทิศทางมาผลิตหนังเน้นความคมชัด ขายวิชวลเอ็ฟเฟ็กต์กันมากขึ้น โดยเฉพาะหนังฟอร์มยักษ์ในช่วงซัมเมอร์
อย่างไรก็ตาม ระบบการฉายที่ดีกว่ายังเป็นเหตุผลให้ขึ้นค่าตั๋วเพื่อทำกำไรได้มากขึ้น และปรับเปลี่ยนโรงหนังให้กลายเป็นพื้นที่อื่นๆ ได้มากขึ้น เช่นโรงละคร การถ่ายทอดคอนเสิร์ต ไปจนถึงการถ่ายทอดการแข่งขันเกม e-sport ด้วย
Phil Clapp ผู้บริหารสมาคมภาพยนตร์อังกฤษ กล่าวว่า การปรับตัวนี้ไม่ใช่ว่าโรงหนังพยายามจะแย่งคนดูหนังที่บ้านให้มาเข้าโรง เนื่องจากคนดูหนังส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเดียวกันอยู่แล้ว แต่ระบบสี่มิตินี้ถือเป็นหนึ่งในการพัฒนาตัวเองเพื่อให้อยู่รอดต่อไปต่างหาก
ระบบ "4 มิติ" คำตอบยุคคนไม่เข้าโรงหนัง https://t.co/kcuv3oIE1a #ThaiPBSnews https://t.co/HweMfjMABC
— ThaiPBS News (@ThaiPBSNews) July 16, 2016