นักสิทธิมนุษยชนเผยแพร่ภาพวิดีโอในค่ายที่พักชั่วคราวของชาวโรฮิงญาที่ตั้งอยู่บริเวณทางตอนเหนือของเมืองหม่องดอว์ในรัฐยะไข่ของเมียนมา ติดกับพรมแดนบังกลาเทศ ซึ่งชาวโรฮิงญาหลายร้อยคนเฝ้ารอที่จะเดินทางเข้าไปในบังกลาเทศ เพื่อหลบหนีความรุนแรงที่เกิดขึ้นครั้งล่าสุด
ขณะที่องค์การโรฮิงญาเมียนมาในอังกฤษ เรียกร้องให้นายบัน คี-มูน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ หารือกับนางอองซาน ซู จี ที่ปรึกษาแห่งรัฐเมียนมา และ พล.อ.อาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการกองทัพเมียนมา ในประเด็นดังกล่าว พร้อมเรียกร้องให้เมียนมายกเลิกการจำกัดและเปิดทางให้เจ้าหน้าที่สามารถส่งความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมเข้าไปในพื้นที่ความขัดแย้งได้ นอกจากนี้ยังเตือนด้วยว่า มีกลุ่มชาติพันธุ์มุสลิมในพื้นที่อย่างน้อย 160,000 คน ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนด้านอาหาร ยารักษาโรคและด้านอื่นๆ แม้ก่อนหน้านี้ รัฐบาลเมียนมา ระบุว่า เจ้าหน้าที่ของโครงการอาหารโลกได้รับอนุญาตให้ลงพื้นที่แจกจ่ายความช่วยเหลือให้กับประชาชนในหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบ 4 แห่ง ตั้งแต่เมื่อวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมาแล้ว
ด้านชาวมุสลิมในมาเลเซียประมาณ 500 คน ร่วมกันเดินขบวนไปยังสถานเอกอัครราชทูตเมียนมา ประจำกรุงกัวลาลัมเปอร์ เพื่อเรียกร้องให้เมียนมาในฐานะสมาชิกอาเซียนยุติความรุนแรงต่อชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่
ล่าสุดคณะรัฐมนตรีมาเลเซียออกแถลงการณ์ประณามความรุนแรงที่เกิดขึ้นในรัฐยะไข่ของเมียนมา ส่วนกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซีย ระบุว่า จะเรียกตัวเอกอัครราชทูตเมียนมาเข้าพบ เพื่อแสดงความกังวลต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องยุติการกระทำที่จะทำให้สถานการณ์ดังกล่าวเลวร้ายมากยิ่งขึ้น
ด้านชาวอินโดนีเซียอย่างน้อย 200 คน ร่วมชุมนุมที่หน้าสถานเอกอัครราชทูตเมียนมา ประจำกรุงจาการ์ตา เป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน ก่อนที่จะเดินขบวนไปยังอาคารองค์การสหประชาชาติ เพื่อประท้วงกรณีที่กองทัพเมียนมาใช้ความรุนแรงกับชาวโรฮิงญา พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลอินโดนีเซียเร่งให้ความช่วยเหลือชาวโรฮิงญา