วิเคราะห์พฤติกรรม "เปรี้ยว" ผู้ต้องหาฆ่าหั่นศพ ตั้งใจเลียนแบบภาพยนตร์

อาชญากรรม
31 พ.ค. 60
21:12
39,360
Logo Thai PBS
วิเคราะห์พฤติกรรม "เปรี้ยว" ผู้ต้องหาฆ่าหั่นศพ ตั้งใจเลียนแบบภาพยนตร์
แม้คดีฆ่าหั่นศพจะเกิดขึ้นบ่อยครั้ง แต่สิ่งที่ทำให้คดีนี้ได้รับความสนใจเป็นพิเศษ เพราะผู้ก่อเหตุส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง อายุยังน้อย และเป็นคนที่มีคนติดตามในโลกโซเชียลจำนวนมาก

ภาพตุ๊กตาชัคกี้จากภาพยนตร์แค้นฝังหุ่น ถูกตั้งค่าเป็นหน้าปกและภาพแนะนำเฟซบุ๊กของเปรี้่ยว หรือ น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย วัย 25 ปี ตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม เวลา 22.49 น. ก่อนที่จะวางแผนลงมือฆาตกรรมแยกชิ้นส่วนอวัยวะ น.ส.วริสรา กลิ่นจุ้ย พนักงานร้านคาราโอเกะจังหวัดขอนแก่น ฝังดินในป่าพื้นที่ อ.เขาสวนกวาง วันที่ 23 พ.ค.โดยระยะห่างกันเพียง 10 วันเท่านั้น

ก่อนหน้านั้น เปรี้ยว มักโพสข้อความรุนแรงในโลกออนไลน์หลายครั้ง แต่พี่สาว อ้างว่าเปรี้ยวไม่ได้มีนิสัยโหดร้าย แต่ก็ยอมรับว่าน้องสาวชอบดูภาพยนตร์แค้นฝังหุ่น หรือแนวฆาตกรรม จึงเป็นเหตุจูงใจทำให้ลงมือ

“ด้วยความบันดาลโทสะมาก น้องบอกว่าที่น้องทำคือ ตีที่หน้าก่อน ตีจนผู้หญิงคนนั้นน็อคลงไป แล้วผู้หญิงคนนั้นพูดมาว่า ถ้ากูไม่ตาย มึงก็ตาย น้องก็เลยเกิดบันดาลโทสะ มือที่บีบคออยู่นั้นก็เลยยิ่งเกร็งไปใหญ่ ตายคามือ” พี่สาวเปรี้ยว กล่าว

ผศ.ศุภลักษณ์ เข็มทอง อาจารย์นักกิจกรรมบำบัด ม.มหิดล วิเคราะห์พฤติกรรมที่แสดงออกในโลกออนไลน์ว่า ที่่ผ่านมาเปรี้ยวใช้พื้นที่สาธารณะย้ำคิดย้ำทำความรุนแรงซ้ำๆ มีภาพจำการฆาตกรรมเลียนแบบภาพยนตร์เหมือนต่างประเทศ ทำให้เห็นว่าสมองอารมณ์ไม่ทำงาน และผู้กระทำจะไม่ความรู้สึกหวาดกลัวใดๆ ระหว่างที่ลงมือทำ

“เคสนี้คือสมองอารมณ์มันไม่ทำงานอยู่แล้ว สมองคิดก็ทำงานบกพร่องอยู่แล้ว เพราะบุคลิกภาพก็ไม่ค่อยดีนัก เวลาที่ติด ติดคือติดคำชม ติดหลงตัวเอง ติดสิ่งที่เขาไม่เคยได้รับจากต้นแบบเลย พอเขาไปดูภาพยนตร์หนึ่ง แล้วภาพยนต์นี้มันดังมาก มันฆ่าได้ รู้สึกยิ่งฆ่าเหยื่อไปเรื่อยๆ โอ้โห เขามีต้นแบบจากภาพยนตร์ อันนี้ก็เป็นการติดแบบหนึ่ง แต่รุนแรงกว่าสารเสพติดมาก” ผศ.ศุภลักษณ์ กล่าว

สอดคล้องกับ ร.ต.อ.จอมเดช ตรีเมฆ นักอาชญาวิทยา ม.รังสิต ที่เชื่อว่าเปรี้ยวอาจมีอาการจิตผิดปกติ เพราะการฆาตกรรมอำพราง ฆ่าหั่นศพ ไม่ใช่การกระทำของคนปกติ และการเป็นเน็ตไอดอล มีส่วนทำให้มีความมั่นใจมากขึ้น

“การอำพรางมันมีมากมายหลายวิธี คนที่สามารถหั่นศพเป็นท่อนๆ ได้ ถ้าไม่ใช่คุณหมอที่เคยทำอย่างคุ้นชิน เคยทำอะไรแบบนี้ ผมว่าก็น่าจะต้องผิดปกติอะไรบางอย่างแล้ว ที่เราจะสามารถทำได้โดยไม่หวาดกลัว คือถ้าเราทั่วๆ ไป ให้เราไปทำ ต่อให้เราตกใจเราก็คงเต็มที่คือวิ่งหนี คงไม่อำพรางด้วยวิธีที่น่ากลัวแบบนี้” ร.ต.อ.จอมเดช กล่าว

ปัจจุบันนักกิจกรรมบำบัด พบว่า เด็กตั้งแต่ 3-13 ปี มีพฤติกรรมที่สามารถหล่อหลอมเป็นฆาตกรได้ตั้งแต่เด็ก หากมีพฤติกรรมรุนแรง ชก ต่อย เพื่อน ผู้ปกครองควรรีบนำเข้าสู่ระบบรักษา หรือหากพบการแสดงออกรุนแรงในที่สาธารณะ เช่น เฟชบุ๊ก พลเมืองควรรีบแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันการก่อเหตุอาชกรรมรุนแรง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง