วันนี้ (3 ก.ค.2560) นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ พร้อมด้วยนายอรรถพล เจริญชันษา รองอธิบดีกรมป่าไม้ นายชีวะภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร นำสื่อมวลชนลงพื้นที่ตรวจสอบธุรกิจเครื่องเล่นซิปไลน์ที่ผิดกฎหมายในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเทือกเขากมลา ต.ป่าตอง อ.กระทู้ จ.ภูเก็ต และป่าสงวนแห่งชาติป่าเทือกเขานาคเกิด ซึ่งพบมีการบุกรุกทำเครื่องเล่นซิปไลน์ จำนวน 4 ราย ในจำนวนนี้ 3 รายอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ และและ 1 รายอยู่ในเขตพื้นที่ ส.ป.ก.
โดยจุดแรกที่เข้าตรวจสอบ พบการออกที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเทือกเขานาคเกิด ซึ่งตรวจจับพิกัดพบอยู่ในเขตป่าไม้ ที่ยังคงสภาพป่าไม้ที่สมบูรณ์ติดกับชายหาดฟรีดอม บีช ซึ่งมีมูลค่าเกือบ 1,000 ล้านบาท ซึ่งที่ดินแปลงนี้พบว่ามีการกระทำผิดของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ร่วมออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ ขณะนี้นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ อยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรม การสอบข้อเท็จจริงเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ ที่เกี่ยวข้องในการออกสารสิทธิทีดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยมิชอบ คาดจะสรุปผลในอีก 1-3 วัน
ส่วนจุดที่ 2 ชื่อบริษัทซิปไลน์แมกซ์ ของนายสุสรัญ โต๊ะพาน เจ้าของกิจการ ตรวจสอบพบบุกรุกเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเทือกเขากมลา จำนวน 36 ไร่ เจ้าของอ้างมีเอกสาร สค.1 แต่มีเพียง 5 ไร่เท่านั้น และยังอยู่ระหว่างการยื่นออกโฉนดกับกรมที่ดิน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจยึดอุปกรณ์เครื่องเล่นซิปไลย์ และติดประกาศการบุกรุกที่ดินอีก 31 ไร่ที่เหลือ อย่างไรก็ตาม พบว่าเจ้าของธุรกิจเป็นรายเดียวกับที่ถูกจับที่พื้นที่จ.เชียงใหม่มาแล้ว
ผู้ประกอบการอ้างเช่าพื้นที่ต่อเพิ่งลงทุน 6 เดือน
จากการสำรวจพบว่าสภาพพื้นที่บริเวณนี้ค่อนข้างลาดชันสูง จุดสถานีรวมนักท่องเที่ยวด้านหน้าที่มีการทำถนนเข้ามา มีการทำสลิงและจุดพักรวม 25จุดความยาว 1,200 เมตร โดยจุดสุดท้ายมองเห็นหาดป่าตอง โดยระหว่างการเข้าตรวจสอบผู้ประกอบกิจการได้เข้ามาพบและพูดคุยกับกรมป่าไม้โดยยืนยันว่ามีการเช่าพื้นที่จากเจ้าของในกรุงเทพเดือนละ 1.2 แสนบาท และเพิ่งดำเนินการเพียง 6 เดือนเท่านั้น ยอมรับว่ายังไม่ได้ขออนุญาตประกอบกิจการจากท้องถิ่น อยู่ระหว่างยื่นขอ หากตรวจว่าที่ดินที่เช่าไม่ถูกต้องพร้อมจะรื้อถอน คาดว่าจะใช้เวลาอย่างน้อย 2 เดือน
เช่าต้นไม้-เปิดป่าชั้น 1,2 ทำซิปไลน์
ด้านนายชีวะภาพ บอกว่า ส่วนซิปไลน์อีก 2 แห่งคือ ป่าตองซิปไลน์ มีการอ้างเอกสารสิทธิครอบครองที่ดินมากถึง 70 ไร่ตามมติคณะรัฐมนตรี 30 มิ.ย.2541 แต่ตรวจสอบภาพทางอากาศพบไม่มีการทำประโยชน์มาก่อน สภาพพื้นที่ยังเป็นพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1, 2 ในเขตป่าเทือกเขากมลา นอกจากนี้จากการสำรวจเส้นทางขึ้นไปก็ตัดทางขึ้นโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งจะเป็นช่องทางให้เกิดการบุกรุกอื่นๆ ทั้งร้านค้า การแผ้วถางป่าตามมา ส่วนอีกจุดชื่อ ภูเก็ตพาราไดซ์ พบบุกรุกที่ดิน 21 ไร่ นอกจากนี้ยังมีการขอเช่าต้นไม้ขนาดใหญ่ในเขตป่าเทือกเขานาคเกิดจำนวน 30 ต้น ความสูงตั้งแต่20 เมตรขึ้นไป เพื่อขึงลวดสลิงสำหรับซิปไลน์
" ขณะนี้ภาพรวมกรมป่าไม้ ตรวจสอบธุรกิจซิปไลน์ทั่วประเทศ พบกระจายใน 3 จังหวัดมากสุดจ.เชียงใหม่มี 12 แห่ง มีการดำเนินคดีแล้ว 6 รแห่ง รื้อถอน 2 แห่งนอกจากนี้ยังมีที่ จ.ระยอง 1 แห่ง และภูเก็ตมีทั้งหมด 7 แห่ง แต่ 3 แห่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งกรมป่าไม้ตรวจยึดในวันนี้ และตามขั้นตอนจะมีการแจ้งความดำเนินคดี ติดประกาศและสอบสวนตามขั้นตอน และจะให้รื้อถอนอุปกรณ์สายสลิงบนต้นไม้ออก ยอมรับว่าการประเมินค่าเสียหายทางแพ่งจากธุรกิจความเสียหายโดยใช้ต้นไม้ในป่าสงวนแห่งชาติ ไปประกอบธุรกิจซิปไลน์ยังไม่มีข้อกำหนด หรือมีการประเมินความเสียหายเทียบกับที่ดินที่ถูกบุกรุก" หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร ระบุ
ด้านนายชลธิศ บอกว่า กรมป่าไม้ ได้รับร้องเรียนจากชาวบ้านว่ามีการเข้าประกอบธุรกิจเครื่องเล่นซิปไลน์ ที่ผิดกฎหมายในเขตพิ้นที่ป่าเทือกเขากมลา การเข้าตรวจยึดครั้งนี้ได้ทำตามขั้นตอนตามกฎหมายมีการการแจ้งเตือนให้เจ้าของเครื่องเล่นที่อ้างครอบครองที่ดินนำเอกสารหลักฐานมาแจ้ง และตรวจสอบแล้วว่าบุกรุกเขตป่าสงวนแห่งชาติจริง จึงมาตรวจยึด และยืนยันไม่เลือกปฏิบัติกับนายทุน
ด้านนายสมชาย ชินไพร เจ้าของรถตู้นำเที่ยวในจ.ภูเก็ต บอกว่า หากได้ลูกทัวร์ไปเล่นซิปไลน์ จะได้ค่าตอบแทนหัวละ 150 บาท และได้ค่าน้ำค่าอาหารจากผู้ประกอบการ เนื่องจากราคาเล่นซิปไลน์เฉลี่ย 2,000-2,500 บาทในภูเก็ตมีหลายพื้นที่ เดือนหนึ่งเฉลี่ยจะมีลูกทัวร์ชาวต่างชาติ 2-3 รายเป็นรายได้เสริม