ผลักดันร่าง ก.ม.คุ้มครองผู้ได้รับผลกระทบจากบริการสาธารณสุข

การเมือง
4 ส.ค. 60
11:02
266
Logo Thai PBS
ผลักดันร่าง ก.ม.คุ้มครองผู้ได้รับผลกระทบจากบริการสาธารณสุข

การเรียกร้องของภาคประชาชน ในนามเครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ ให้ผลักดัน ร่างกฎหมายคุ้มครองผู้ได้รับผลกระทบจากบริการสาธารณสุข เกิดขึ้นมายาวนานกว่า 15 ปี ผ่านมาก็หลายรัฐบาล แต่ร่างกฎหมายฉบับนี้ก็ไปไม่ถึงไหน ล่าสุดเครือข่ายฯ ได้นำ 50,000 กว่ารายชื่อประชาชน ส่งให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นการเดิมพันอีกครั้งสำคัญ เพื่อแสดงเจตจำนงค์ความต้องการให้ร่างกฎหมายมีผลบังคับใช้ภายในรัฐบาลชุดนี้

แม้สภาพร่างกายดูเหมือนเด็กปกติ แต่ด้วยวัย 9 ขวบ ด.ญ.เจนจิรา เกิดสำราญ หรือ น้องทราย กลับมีพัฒนาการล่าช้า สติปัญญาเทียบเท่าเด็กวัยเพียง 4 ปีเท่านั้น นางพิชากานต์ จูเกตุ ผู้ได้รับผลกระทบจากบริการทางการแพทย์ เล่าว่า เธอฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ใน จ.นครปฐม ช่วงใกล้คลอด ปวดท้องอย่างรุนแรงจากภาวะน้ำคร่ำแห้ง จึงร้องขอให้แพทย์เร่งผ่าท้องคลอด แต่แพทย์บอกให้รอและให้นอนพักอยู่หลายวัน กระทั่งปวดจนทนไม่ไหว แพทย์จึงตัดสินใจผ่าคลอดด่วน สุดท้ายลูกมีภาวะพิการแต่กำเนิด เธอมั่นใจว่าความผิดปกติของลูก มาจากการกระทำของแพทย์ แต่กลับไม่ได้รับการเยียวยา และรับผิดชอบที่ดีพอจากโรงพยาบาล ครอบครัวนี้เป็นหนึ่งในกว่า 56,000 รายชื่อ ที่ลงชื่อสนับสนุน ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ได้รับผลกระทบจากบริการสาธารณสุข และรายชื่อทั้งหมดที่รวบรวมผ่าน Change.org

นางปรียนันท์ ล้อเสริมวัฒนา ประธานเครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ ได้ยื่นต่อต่อให้กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ร่างกฎหมายคุ้มครองผู้ได้รับผลกระทบจากบริการสาธารณสุข ค้างอยู่ในวาระพิจารณามาหลายรัฐบาล เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 15 ปี เหตุผลที่ไม่คืบหน้า เพราะถูกทักท้วงจากแพทยสภามาตลอด

ประธานเครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ ยืนยันว่า หลักการของร่างกฎหมายฯ ตั้งต้นที่กองทุนเยียวยาผลกระทบ พร้อมทั้งตั้งคณะกรรมการพิจารณาหลักเกณฑ์เยียวยา ออกแบบระบบลดผลกระทบจากการรับบริการทางการแพทย์ เชื่อว่าจะเป็นกลไกลดปัญหาการฟ้องร้องระหว่างผู้ป่วยกับบุคลากรทางการแพทย์

ข้อมูลจากเครือข่ายผู้เสียหางการแพทย์พบว่า ในรอบ 20 ปี มีกรณีเรียกร้องให้เยียวยาผู้ป่วยซึ่งได้รับผลกระทบจากการรักษาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยมีคดีที่ยื่นฟ้องกระทรวงสาธารณสุข คดีแพ่ง 269 คดี และ คดีอาญา 38 คดี ภาคประชาชน มั่นใจว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้ คือทางออกลดความขัดแย้ง ระหว่างแพทย์กับผู้ป่วยได้ดีที่สุด พร้อมคาดหวังว่าจะสำเร็จได้ภายในรัฐบาลชุดนี้

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง