เพื่อนสนิท “ปู พงษ์สิทธิ์” ห่วง - เตือน “ทีหลังอย่าไปจับปืนอีกนะ”

สังคม
4 ส.ค. 60
12:37
1,584
Logo Thai PBS
เพื่อนสนิท “ปู พงษ์สิทธิ์” ห่วง -  เตือน “ทีหลังอย่าไปจับปืนอีกนะ”
เพื่อนสนิท “ปู พงษ์สิทธิ์” ห่วงเตือน “ทีหลังอย่าไปจับปืนอีกนะ”

วันนี้ (4 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสออนไลน์รายงานว่า หลังเกิดเหตุ ทหารอากาศคนหนึ่งใช้ปืนชี้ไปที่ นักร้องเพลงเพื่อชีวิตชื่อดัง “ปู พงษสิทธิ์ คำภีร์” ระหว่างแสดงดนตรีที่ จ.อำนาจเจริญ ซึ่งต่อมา โฆษกกองทัพอากาศทราบเรื่อง และให้ต้นสังกัดตั้งกรรมการสอบวินัยแล้วนั้น

ล่าสุดมีบรรดาเพื่อนของ ปู พงษ์สิทธิ์ แสดงความห่วงใยในความปลอดภัย ผ่านเฟซบุ๊ก โดยเพื่อนสนิทของปู พงษ์สิทธิ์ ที่ใช้เฟซบุ๊กว่า Ammahit Kongpien เขียนข้อความระบุว่า

 

 

 

 

ผมอยากจะบอกเพื่อนว่า...
——————————-
บ่ายนี้ ผมจะเดินทางไปอุบลราชธานีตามนัดหมายที่มีไว้นานแล้ว จะต้องไปทำธุระปะปังอะไรหลายอย่าง ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่เพื่อนกำลังตระเวณเล่นดนตรีอยู่แถบนั้น เราจึงนัดหมายกันคร่าวๆ ไว้นานแล้วว่า จะเจอกันนะ

แล้วเมื่อคืนก่อน เพื่อนเกิดเรื่องที่เป็นข่าวครึกโครมไปทั่วประเทศ ผมเห็นคลิปที่มีชายคนหนึ่งพยายามยื่นมือไปขอจับมือเพื่อน ในขณะที่เพื่อนสะพายกีต้าร์เล่นดนตรีและร้องเพลงสร้างความสุขให้คนฟังทั้งร้าน

จะด้วยความโกรธแค้นหรือความเมาไม่ทราบได้ ชายคนนั้นชักปืนจ่อไปที่เพื่อนอย่างน่าหวาดเสียว แต่ที่น่าตกใจและทำให้ผม ‘หัวใจหล่น’ ที่สุดก็คือ เพื่อนเดินตรงเข้าไปจับปืนกระบอกนั้น


ชีวิตของนักดนตรีกลางคืนมันก็สุ่มเสี่ยงพออยู่แล้ว ยิ่งมีชื่อเสียงยิ่งตกเป็นเป้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เพื่อนก็เดินบนเส้นทางนี้มาได้อย่างอยู่รอดปลอดภัย ทั้งอาจะเป็นเพราะความเข้าอกเข้าใจแฟนเพลง การจัดระบบระเบียบที่ดี และการบริหารอารมณ์อีกสารพัด

ตลอดเวลา 30 ปีที่เพื่อนทำงานเพลงมา เขาตั้งมั่นที่จะสร้างความสุขให้แฟนเพลง แต่งเพลงสร้างดนตรีที่ทำให้คนฟังมีความสุข ออกตระเวณเล่นคอนเสิร์ตในราคาที่ถูกกว่าวงดนตรีเด็กๆ อย่างชนิดน่าตกใจ เพียงเพื่ออยากให้ร้านรวงที่เคยว่าจ้างกันมา มีกำลังในการจ้าง สามารถทำกำไร และว่าจ้างวงดนตรีมาสร้างความสุขให้ลูกค้าได้ต่อๆไป

มีคนจำนวนไม่น้อยที่ ‘เอาแต่ใจ’ คิดว่าจ่ายเงินซื้อเทปซื้อซีดีหรือโหลดเพลงแล้วจะต้องได้ทุกอย่างที่อยากได้ ไปดูคอนเสิร์ตทุกที่จะต้องได้ถ่ายรูปคู่ได้จับมือ หรือแม้กระทั่งไปเจอที่ไหนก็ตาม ถ้าอยากถ่ายรูปต้องได้ถ่าย อยากจับมือต้องได้จับ โดยไม่เห็นอกเห็นใจเลยว่า นั่นจะเป็นเวลาส่วนตัวหรือไม่ แต่เพื่อนก็ไม่เคยอิดออด ถ้าทำอะไรได้ก็ทำ เพื่อให้ทุกคนมีความสุข

แล้ววันหนึ่งก็มีคนๆ หนึ่งยกปืนขึ้นจ่อที่หน้า เพียงเพราะไม่พอใจในเรื่องเล็กๆ ผมไม่เข้าใจจริงๆว่ามันคืออะไร ? ชีวิตเราจะอยู่กันต่อไปอย่างไร ? เมื่อวานผมเหลือบมองโทรศัพท์หลายหน ตั้งแต่สายๆ จนถึงเย็น ชั่งใจว่าจะโทรหาเพื่อนดีไหม เพราะแน่นอนว่าคงยังไม่ตื่นนอน จึงโทรไปทิ้งไว้ ซึ่งรู้อยู่แล้วว่าเป็นเวลาที่ยังไม่เปิดเครื่อง แต่เหนือสิ่งอื่นใด เพื่อนคงต้องตอบคำถามใครต่อใครมากมาย ผมจึงไม่อยากไปรบกวนเพื่อนอีก

ระหว่างวัน ผมนึกถึงคำพูดที่ตั้งใจจะแสดงความห่วงใย คิดวนอยู่หลายหน ว่าจะบอกแบบไหน ที่ทำให้เพื่อนไม่อึดอัดใจในความเป็นห่วงของเรา หรือไม่ให้เพื่อนเซ็ง
ราวๆ 5 โมงเพื่อนโทรมา เพียงแค่คำถามแรกจากเพื่อน ผมก็ไม่ได้พูดอะไรอีก มันพูดไม่ออกจริงๆ เพราะเพื่อนถามว่า “พรุ่งนี้..มาหา..กี่โมง” จากนั้นเราได้แต่คุยเรื่องสนุก หัวเราะกันลั่นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ก่อนวางสาย ผมกัดฟันพูดออกไปเบาๆว่า “กูห่วงมึงนะ” เพื่อนหัวเราะแล้วบอกว่า “กูรู้” แล้วผมก็อดไม่ได้ที่จะ...ส่งท้ายว่า


“ทีหลังอย่าไปจับปืนอีกนะ”

ค่ำนี้เราจะได้เจอกัน ด้วยใจที่เป็นห่วงเพื่อนมากที่สุด
#เพื่อนคำภีร์

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง