วันนี้ (31 ส.ค.2560) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงกรณีศาลอาญาแผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบพิพากษาจำคุกนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ เป็นเวลา 2 ปี ในคดีสนามกอล์ฟอัลไพน์ ฐานจงใจตีความโดยใช้กฎหมายผิดเพี้ยนไปจากความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา และฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมติ ครม.ว่า ขอศึกษารายละเอียดของคดีอัลไพน์ก่อน จึงจะกำหนดทิศทางได้ว่าจะเดินหน้าเรื่องนี้อย่างไรต่อ แต่ยืนยันว่าจะยึดหลักของกฎหมาย
ก่อนหน้านี้ ยังมีความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2544 ที่ตอบกลับข้อหารือของกรมการศาสนาที่ยืนยันว่ากรณีวัดธรรมิการามวรวิหาร วัดได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินมรดกตามพินัยกรรมของนางเนื่อม ชำนาญชาติศักดา ทันทีที่นางเนื่อมถึงแก่กรรม ที่ดินดังกล่าวจึงเป็นที่ธรณีสงฆ์ตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 และมูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์ ในฐานะผู้จัดการมรดกของนางเนื่อม ต้องโอนที่ดินมรดกตามพินัยกรรม ที่ระบุให้ตกแก่วัดได้เท่านั้น จะโอนให้แก่บุคคลอื่นนอกเหนือจากวัดไม่ได้ เพราะเท่ากับขัดเจตนารมณ์เจ้าของมรดก.." นอกเหนือจากข้อหารือของกรมที่ดินที่เคยมีไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ถึงปัญหาทรัพย์มรดกตามพินัยกรรมของนางเนื่อม ว่าด้วยการตรา พ.ร.บ.โอนกรรมสิทธิ์ที่ธรณีสงฆ์ให้มีผลย้อนหลัง
มีรายงานว่า นอกจากกระทรวงมหาดไทย กำลังอยู่ระหว่างการศึกษาคำพิพากษาแล้ว ยังต้องรอดูท่าที หรือนโยบายเพื่อประกอบการตัดสินใจดำเนินการทวงคืนที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ เพราะนอกจากจะเกี่ยวข้องกับกฎหมายหลายฉบับ ยังจะส่งผลกระทบต่อผู้บริสุทธิ์ที่ซื้อบ้านและเข้ามาอยู่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าวนานกว่า 10 ปี ซึ่งต้องหามาตรการเยียวยา
ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายเห็นว่า กรณีที่ดินอัลไพน์ ต้องรอให้คดีถึงที่สุดก่อน รัฐจึงจะพิจารณาเรื่องการจัดการปัญหาที่ดินดังกล่าว ซึ่งอาจเลือกใช้วิธีการเวนคืนที่ดิน ซึ่งต้องมีการจ่ายเยียวยาให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบ แต่หากผู้ได้รับผลกระทบ มองว่าไม่เป็นธรรม ก็สามารถฟ้องต่อศาลปกครองให้เพิกถอนคำสั่งได้