นายกฯ ลงพื้นที่สตูล เปิดเน็ตประชารัฐ-เคเบิ้ลใต้น้ำระหว่างประเทศ

การเมือง
29 ก.ย. 60
11:13
1,298
Logo Thai PBS
นายกฯ ลงพื้นที่สตูล เปิดเน็ตประชารัฐ-เคเบิ้ลใต้น้ำระหว่างประเทศ
เจ้าหน้าที่คุมเข้มความปลอดภัย นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ จ.สตูล เปิดงานโครงการเน็ตประชารัฐ และโครงการเคเบิ้ลใต้น้ำระหว่างประเทศ โดยเป็นครั้งแรกที่นายกรัฐมนตรี เปิดโอกาสให้เครือข่ายภาคประชาชนที่คัดค้านการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกปากบารา ได้นำเสนอข้อมูลโดยตรง

วันนี้ (29 ก.ย.2560) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ใช้เครื่องตรวจสอบโลหะ และวัตถุต้องสงสัย รวมทั้งตรวจสอบบุคคลอย่างละเอียด ก่อนเข้าสู่บริเวณงานโครงการเน็ตประชารัฐ ที่ตั้งเป้าขยายฐานโทรคมนาคมเน็ตประชารัฐให้ได้ 24,700 หมู่บ้านใน 77 จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสตูล ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้กำลัง 2 กองร้อย และกำลังทหารจำนวนมากเข้าดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันเหตุรุนแรง

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังเปิดให้พบปะและรับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาชน ผ่านกลุ่มพลังเครือข่ายมากกว่า 20 องค์กร เป็นครั้งแรก โดยเฉพาะเครือข่ายคัดค้านการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกปากบารา 

 

 

นายไกรวุฒิ ชูสกุล หนึ่งในเครือข่ายติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูล กล่าวว่า การจัดนิทรรศการครั้งนี้สะท้อนให้นายกรัฐมนตรีเห็นถึงความหลากหลายของทรัพยากรทางทะเล จ.สตูล ที่ไม่ต้องการให้ถูกทำลายด้วยโครงการพัฒนาการก่อสร้างท่าเทียบเรือน้ำลึกปากบารา และเห็นว่าภาครัฐควรต่อยอดการพัฒนาให้ จ.สตูล เข้าสู่เมืองจีโอปาร์ค หรืออุทยานทางธรณี สามารถสร้างรายได้เข้าประเทศไม่ต่ำกว่าปีละ 30,000 ล้านบาท

นายเอกชัย อิสระทะ ผู้ประสานงานเครือข่ายพิทักษ์สิทธิชุมชนเขาคูหา กล่าวว่า เป็นสิ่งที่ดีในการเปิดโอกาสให้กลุ่มที่คิดต่างกับโครงการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึก ได้นำเสนอข้อมูลโดยตรงต่อ นายกรัฐมนตรี แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลควรนำข้อมูลที่ได้รับเกี่ยวกับผลกระทบต่อทรัพยากร ธรรมชาติไปประกอบการพิจารณาโครงการด้วย เนื่องจากโครงการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกปากบารา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการสะพานเศรษฐกิจแลนด์บริดจ์สงขลา-สตูล อาจสร้างความเสียหายกับทรัพยากรธรรมชาติอย่างมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิดสถานีเคเบิ้ลใต้น้ำระหว่างประเทศความยาว25,000กิโลเมตรเพื่อผลักดันให้กลายเป็นศูนย์กลาในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ที่สำคัญของโลก โดยเฉพาะเอเชียตะวันออก แอฟริกา และยุโรป และเป็นการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ตามนโยบายของรัฐบาลในการก้าวสู่ "ประเทศไทย 4.0"

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง