ทนายแจ้งความเอาผิด "โฆษณา" ขายครีมทาก้นขาว

สังคม
12 ม.ค. 61
13:35
1,436
Logo Thai PBS
ทนายแจ้งความเอาผิด "โฆษณา" ขายครีมทาก้นขาว
ทนายความเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับสาวถ่ายคลิปวิดีโอ โฆษณาขายครีมทาก้นขาว อาจเข้าข่ายลามกอนาจาร มีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พร้อมเรียกร้องให้ขอให้มีการตรวจสอบว่า เป็นการโฆษณาเกินจริงหรือไม่

วันนี้ (12 ม.ค.2561) นายสุธีพงศ์ ชีวิตเจริญ ทนายความ เข้าแจ้งความดำเนินคดี ในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฐานเผยแพร่สื่อลามกอนาจาร กับเจ้าของเฟซบุ๊ก ที่โฆษณาขายครีมทาก้นขาว และมีการถ่ายคลิปวีดีโอโชว์การทาครีม จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง

นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เปิดเผยว่า คลิปโฆษณาดังกล่าว เข้าข่ายอนาจาร เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีของเยาวชน และควรดำเนินคดีเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง จึงให้ทนาย ความของชมรมเข้าแจ้งความกับตำรวจ เพื่อให้ดำเนินคดีความผิด เผยแพร่สื่อลามกอนาจารตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์


นายอัจฉริยะ กล่าวต่อว่า ได้ขอให้ตำรวจตรวจสอบว่าเข้าข่ายความผิดโฆษณาเกินจริงด้วยหรือไม่ เพราะส่วนตัวไม่เชื่อว่า ครีมดังกล่าวจะมีคุณสมบัติทำให้ผิวขาวขึ้นเหมือนในคลิป รวมถึงอาจมีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภคด้วย

ด้านพ.ต.อ.โอฬาร สุขเกษม ผู้กำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญา กรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. กล่าวว่า เบื้องต้น พบว่าเป็นคลิปการขายสินค้า ส่วนจะเข้าข่ายลามกอนาจารหรือไม่ ต้องนำเรื่องเข้าที่ประชุม เพื่อพิจารณาตามหลักเกณฑ์ก่อน ส่วนการตรวจสอบตัวสินค้าว่าผลิตถูกต้องตามกฎหมายและมีสารอันตรายหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบของตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค

เตรียมตรวจสอบสรรพคุณครีม 

ขณะที่ นายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความ กล่าวว่า คลิปโฆษณาดังกล่าว อาจยังไม่เข้าข่ายความผิดฐานลามกอนาจาร เพราะมีหลายกรณี เช่น การสวมชุดชั้นใน หรือชุดว่ายน้ำ ที่ไม่เข้าข่ายความผิด ซึ่งอาจต้องพิจารณาถึงเจตนาของการนำเสนอว่า แสดงเจตนายั่วยุทางกามารมณ์หรือไม่

นายเกิดผล กล่าวต่อว่า ประเด็นการโฆษณาสินค้าที่อ้างว่าใช้แล้วทำให้ผิวขาว ต้องตรวจสอบว่า เป็นการโอ้อวดสรรพคุณเกินจริงหรือไม่ และมองว่าการรีวิว หรือแสดงตัวอย่างในการใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อการขายสินค้า ในปัจจุบันเน้นความเซ็กซี่ วาบหวิวเป็นตัวอย่างการโฆษณาสินค้าในทางที่ไม่ดี เพื่อเน้นยอดการเข้าถึงและยอดรับชมในสังคมออนไลน์ มากกว่าเน้นขายจุดแข็งด้านคุณภาพของตัวสินค้า ซึ่งคนส่วนใหญ่ในสังคมไม่ได้ยอมรับมากนัก ต้องแนะนำเยาวชนและสังคม อย่านำตัวอย่างเหล่านี้ไปเลียนแบบ เพราะไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง