วันนี้ (4 มิ.ย.2561) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ออกแถลงการณ์ให้กระทรวงกลาโหมยับยั้งในการจัดซื้อดาวเทียม ที-เออ ตามการผลักดันของสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (สทป.) เพราะไม่เพียงสิ้นเปลืองงบประมาณ 91,200 ล้านบาทแล้ว ยังเกรงว่าเป็นอันตรายต่อการละเมิดสิทธิและเสรีภาพในการดำเนินชีวิต และความเป็นส่วนตัวของบุคคล โดยอาจจะขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 4, มาตรา 25, มาตรา 32 และมาตรา 36 ที่ระบุว่า "บุคคลย่อมมีสิทธิในความเป็นอยู่ส่วนตัว" และ "การกระทำด้วยประการใดๆ เพื่อให้ล่วงรู้หรือได้มาซึ่งข้อมูลที่บุคคลสื่อสารถึงกันจะกระทำมิได้" และเมื่อการจัดซื้อยังไม่ผ่านความเห็นชอบของรัฐสภา ก็อาจขัดต่อมาตรา 178 ของรัฐธรรมนูญอีกด้วย
ขณะที่กระทรวงกลาโหม ย้ำว่าการจัดซื้อดาวเทียมสำรวจ ประเภทเรดาร์ ไม่ใช่โครงการของกระทรวงกลาโหม แต่เป็นความรับผิดชอบของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และเป็นโครงการร่วมทุนระหว่างประเทศ โดยมีไทยรวมอยู่ด้วย และขณะนี้โครงการดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนของการศึกษา และวิจัยของ สทป. หากไทยเข้าไปร่วมทุนด้วยจะต้องจ่ายประมาณ 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณกว่า 70,000 ล้านบาท
กระทรวงกลาโหม ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ดาวเทียมดังกล่าวเป็นเพียงเรดาร์สำรวจทรัพยากร ไม่ใช่ดาวเทียมที่ใช้ในภารกิจทหาร เพราะหากใช้ในภารกิจทหารจะต้องได้มาตรฐานองค์การนาซ่า ทั้งนี้ หากไม่ผ่านระบบมาตรฐานที่กำหนดไว้อาจมองได้ว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง
สำหรับดาวเทียมธีออส 2 เตรียมที่จะส่งขึ้นไปอีก 3 ปีข้างหน้า เพื่อทดแทนธีออสเดิม เนื่องจากจะครบอายุการใช้งาน 15 ปีแล้ว