หยุด! วัยรุ่นไทย "ฆ่าตัวตาย" ทุกปัญหามีค่าต่อการรับฟัง

สังคม
5 มี.ค. 62
16:47
3,396
Logo Thai PBS
หยุด! วัยรุ่นไทย "ฆ่าตัวตาย" ทุกปัญหามีค่าต่อการรับฟัง
พญ.วิมลรัตน์ วันเพ็ญ รองผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ แนะตั้งคำถาม แสดงความต้องการรับฟังทุกปัญหา ไม่ตำหนิ และพร้อมจะช่วยเหลือ หากอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉินเมื่อมีคนต้องการฆ่าตัวตาย

กรณีนักศึกษากระโดดอาคารเรียนเสียชีวิตในช่วงบ่ายวานนี้ ล่าสุด วันนี้ (5 มี.ค.2562) รองคณบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษา เปิดเผยกับไทยพีบีเอสออนไลน์ว่า ได้พูดคุยกับครอบครัวของนักศึกษาแล้ว ทราบว่ามีอาการป่วยโรคซึมเศร้า โดยช่วงเย็นวันนี้ทางคณาจารย์ของคณะและมหาวิทยาลัย จะเดินทางไปร่วมพิธีศพ ใน อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น 

มหาวิทยาลัยจะดูแลและให้ความช่วยเหลือครอบครัวนักศึกษาอย่างเต็มที่ 

รองคณบดี ยังระบุว่า ทางมหาวิทยาลัยได้มีการจัดตั้งหน่วยสุขภาพจิต เพื่อดูแลและให้คำปรึกษากับนักศึกษาอยู่แล้ว ขณะที่วันนี้ ผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยจิตเวชศาสตร์ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ได้จัดอบรมบุคลากร ทั้งคณาจารย์และเจ้าหน้าที่ในคณะ เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการพูดคุยและดูแลนักศึกษา รวมถึงวิธีการในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน

ชี้สัญญาณเตือน ก่อนวัยรุ่นคิดฆ่าตัวตาย

ก่อนหน้านี้ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา มีการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับการฆ่าตัวตายของนักศึกษามาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่สถิติการฆ่าตัวตายสำเร็จ ของศูนย์ป้องกันการฆ่าตัวตายระดับชาติ โรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์ เปิดเผยตัวเลขเด็กอายุตั้งแต่ 0-19 ปี ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีแนวโน้มที่ลดลง

  • ปี 2556 ฆ่าตัวตาย 193 คน
    อัตราฆ่าตัวตายกลุ่มวัยรุ่น ร้อยละ 1.14
  • ปี 2557 ฆ่าตัวตาย 162 คน
    อัตราฆ่าตัวตายกลุ่มวัยรุ่น ร้อยละ 0.97
  • ปี 2558 ฆ่าตัวตาย 153 คน
    อัตราฆ่าตัวตายกลุ่มวัยรุ่น ร้อยละ 0.93
  • ปี 2559 ฆ่าตัวตาย 159 คน
    อัตราฆ่าตัวตายกลุ่มวัยรุ่น ร้อยละ 0.99
  • ปี 2560 ฆ่าตัวตาย 140 คน
    อัตราฆ่าตัวตายกลุ่มวัยรุ่น ร้อยละ 0.89

ไทยพีบีเอสออนไลน์จึงสอบถามไปยังเกี่ยวกับปัจจัยที่ทำให้วัยรุ่นคิดฆ่าตัวตาย โดย พญ.วิมลรัตน์  วันเพ็ญ รองผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ ระบุว่า สาเหตุการฆ่าตัวตายในวัยรุ่นเกิดจากหลายปัจจัย ซึ่งสาเหตุสำคัญมาจากโรคซึมเศร้า และอาจเกิดเหตุการณ์กระทบจิตใจอย่างรุนแรงเกิดขึ้น จนทำให้มีความคิดต้องการทำร้ายตัวเอง แต่ผู้ที่ต้องการจะฆ่าตัวตายมักมีการส่งสัญชาติออกมาก่อนเสมอ

สำหรับสัญญาณเตือนที่แสดงให้เห็นถึงความคิดฆ่าตัวตาย คือ อารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปของวัยรุ่น ซึ่งอาจมีอาการหงุดหงิด วิธีการพูดที่รุนแรง ฉุนเฉียว หรือมีอารมณ์ที่เศร้ามากจนผิดปกติ รวมทั้งคำพูดที่ต้องการทำร้ายตนเอง 

เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงแบบนี้เกิดขึ้น คนรอบข้างต้องเริ่มสังเกตและเข้าพูดคุย รับฟังให้มาก พูดให้น้อย ไม่แนะนำ แต่พยายามเข้าใจให้มากที่สุด 

พญ.วิมลรัตน์ ยังระบุอีกว่า คนรอบข้างสามารถสอบถามถึงความต้องการทำร้ายตนเองของผู้ป่วยซึมเศร้าได้ หากเขามีความต้องการทำร้ายตัวเอง ก็ถามต่อไปถึงการคิดฆ่าตัวตาย 

การถามเขาว่าวางแผนหรือยัง หรือแค่เริ่มคิด ไม่เป็นการกระตุ้นเขาแน่นอน คนที่ไม่คิดฆ่าตัวตาย เมื่อถูกถาม ก็จะไม่มีอะไร แต่หากเขาตอบว่าคิด เราจะต้องรีบรักษา ต้องฉุดเขาไว้ คอยดูแลอย่างใกล้ชิด

แนะวิธีพูดคุย เมื่อมีคนคิด "ฆ่าตัวตาย"

รองผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ แนะนำวิธีการในการพูดคุยกับผู้ที่คิดฆ่าตัวตาย เมื่ออยู่ในกรณีฉุกเฉินหรือเร่งด่วน โดยไม่มีผู้เชี่ยวชาญในการพูดคุยอยู่ด้วย ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าพูดคุย เพื่อยืดเวลาออกไปได้ก่อน สำหรับการตั้งคำถามควรเป็นคำถามทั่วไป แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในการรับฟัง ไม่ตำหนิ และพร้อมจะช่วยเหลือ และระหว่างนั้นต้องมีการติดต่อตำรวจหรือผู้เชียวชาญที่สามารถพูดคุยได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

  • ชื่ออะไร
  • เกิดอะไรขึ้น
  • เราอยากช่วยนะ
  • ให้เราช่วยได้ไหม
  • ร้อนไหม
  • หิวรึเปล่า
  • อยากคุยกับใครไหม
  • เราจะติดต่อให้ 

สำหรับคนที่กังวลว่า การพูดคุยกับผู้ที่ต้องการฆ่าตัวตายในสถานการณ์ฉุกเฉินนั้น อาจเป็นการกระตุ้นให้คนผู้นั้นตัดสินใจกระทำลงไปทันที แต่พญ.วิมลรัตน์ ยืนยันว่า คนที่จะทำร้ายตัวเอง หรือฆ่าตัวตาย จะตัดสินใจด้วยตัวเอง สำหรับผู้ที่ต้องการช่วยเหลือ หากพูดคุยแล้วช่วยได้ก็เป็นเรื่องดี แต่หากช่วยไม่ได้ก็ใช่ความผิดของคนที่ต้องการช่วยเหลือแต่อย่างใด

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง