สั่งตั้ง กก.สอบข้อเท็จจริง 3 ตำรวจ คดีอุ้ม "ส.ต.ท." เรียกค่าไถ่

อาชญากรรม
13 พ.ค. 62
10:34
958
Logo Thai PBS
สั่งตั้ง กก.สอบข้อเท็จจริง 3 ตำรวจ คดีอุ้ม "ส.ต.ท." เรียกค่าไถ่
บก.สส.ภ.9 สั่งเด้ง 3 ตำรวจชุดสืบสวนภูธรภาค 9 มาปฏิบัติราชการที่ ศปก.บก.สส.ภ.9 พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง คดีอุ้มตำรวจ สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี เรียกค่าไถ่

วันนี้ (13 พ.ค.2562) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้ากรณี ส.ต.ท.สัญลักษณ์ จันทร์ดำ ผบ.หมู่ (ป) สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี มีหนังสือร้องเรียน ด.ต.ธีระยุทธ สุวรรณรัตน์ กับพวก ซึ่งได้จับกุมตัว ส.ต.ท.สัญลักษณ์ พร้อมด้วยอาวุธปืนที่เป็นของทางราชการ ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยแจ้งว่ามีการข่มขู่ว่าจะดำเนินคดีในข้อหาขัดขืนการจับกุม พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน อ้างว่ามีการเรียกรับเงิน 200,000 บาท เพื่อแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดีดังกล่าวว่า ได้รับรายงานจากกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ว่า

"ส.ต.ท." ร้องถูก ตร.อุ้มเรียกค่าไถ่

ส.ต.ท.สัญลักษณ์ มีหนังสือร้องเรียน ด.ต.ธีระยุทธ กับพวก กรณีเมื่อวันที่ 26 มี.ค.2562 เวลา 19.00 น. ส.ต.ท.สัญลักษณ์ กับพวก จับกลุ่มกันอยู่บริเวณภายในซอย 18 รัตนอุทิศ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ขณะนั้น ด.ต.ธีระยุทธ กับพวก มุ่งเข้ามายังกลุ่มของ ส.ต.ท.สัญลักษณ์ อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและได้เข้าตรวจยึดอาวุธปืนและควบคุมตัว ส.ต.ท.สัญลักษณ์ กับพวก ขึ้นรถยนต์ไปควบคุมไว้ที่เซฟเฮาส์ ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เป็นเวลา 1 คืน พอรุ่งเช้าวันที่ 27 มี.ค.2562 น.ส.น็อต ติดต่อกับญาติของ ส.ต.ท.สัญลักษณ์ กับพวก ซึ่งได้ต่อรองโดยการจำนำรถยนต์เก๋ง ของ ส.ต.ท.สัญลักษณ์ เป็นเงิน 80,000 บาท และเงินสด 120,000 บาท ให้กับ น.ส.น็อต จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ปล่อยตัว ส.ต.ท.สัญลักษณ์ กับพวก หลังจากนั้น ส.ต.ท.สัญลักษณ์ จึงได้มีหนังสือร้องเรียนเรื่องดังกล่าว

สั่งเด้งเข้า ศปก.บก.สส.ภ.9

ในเบื้องต้นทราบว่า บก.สส.ภ.9 มีคำสั่งให้ ด.ต.ธีระยุทธ, ด.ต.สิรภพ หมื่นหนู ตำแหน่ง ผบ.หมู่ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.ภ.9 และ ด.ต.พิรชัช หวั้นเส้ง ตำแหน่ง ผบ.หมู่ กก.ปฏิบัติการพิเศษ บก.สส.ภ.9 มาปฏิบัติราชการที่ ศปก.บก.สส.ภ.9 พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว

รองโฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและตอบคำถามสังคมได้นั้น บก.สส.ภ.9 สั่งตั้งคณะกรรมตรวจสอบข้อเท็จจริง รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำความจริงให้ปรากฏ หากผลการสืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่ามีการกระทำผิดจริง ก็จะดำเนินการทั้งทางอาญาและทางวินัยอย่างเด็ดขาด ไม่มีการให้ความช่วยเหลือ หรือปกป้องผู้ที่กระความผิด

ผบ.ตร.สั่งตรวจสอบ เอาผิดวินัย-อาญา

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กำชับให้ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา ทำการสืบสวน ขยายผล และจับกุมผู้ที่สนับสนุนหรือที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมด ซึ่งที่ผ่านมา ผบ.ตร. ได้กำชับและสั่งการมาโดยตลอด ห้ามเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้อำนาจหน้าที่ประพฤติผิดในทางมิชอบ แสวงหา หรือปฏิบัติหน้าที่อันเป็นการเหลื่อมล้ำกับกฎหมาย สร้างความเดือนร้อนแก่สังคม โดยเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติงานด้วยความสุจริต ยุติธรรม ตลอดจนการปฏิบัติหน้าที่ตามกรอบของกฎหมาย และยังมีข้อสั่งการไปยังกองบัญชาการทุกภาคส่วนให้ผู้บังคับบัญชาควบคุม เสริมสร้างความประพฤติและวินัยข้าราชการตำรวจ ทั้งเวลาราชการและนอกเวลาราชการ ตามคำสั่งที่ 1212/2537 ในการกวดขัน กำกับ ดูแล สอดส่องความประพฤติและพฤติกรรมของข้าราชการตำรวจภายใต้การปกครองบังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด

หากพบตำรวจเป็นผู้กระทำความผิดเสียเอง ผบ.ตร. ยอมรับไม่ได้ ต้องเอาผิดให้ถึงที่สุดทั้งทางวินัยและทางอาญา รวมทั้งผู้บังคับบัญชาที่ไม่ใส่ใจ ไม่กำกับดูแลความประพฤติ การปฎับัติหน้าที่ของผู้ใต้บังคับบัญชา ก็จะถูกพิจารณาโทษด้วยเช่นกัน

จ่อส่งสำนวนให้ ป.ป.ช.

ขณะที่พนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ เร่งทำสำนวนการสอบสวนคดีนี้ โดยพนักงานสอบสวน เปิดเผยว่า คดีนี้ยังอยู่ในระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานนำมาประกอบในสำนวน เพื่อส่งให้ ป.ป.ช.ดำเนินการ เนื่องผู้ถูกกล่าวหาเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้เสร็จสิ้นภายใน 30 วัน

ส่วนรถยนต์ส่วนตัวที่แม่ ส.ต.ท.สัญลักษณ์ จำนำไว้ในวงเงิน 80,000 บาท เพื่อไถ่ตัว และถูกขายต่อให้เครือข่ายยาเสพติดในวงเงิน 200,000 บาท ขณะนี้ตำรวจรู้แหล่งซื้อรถคันดังกล่าวแล้ว อยู่ในท้องที่ อ.บางกล่ำ จ.สงขลา ตำรวจอยู่ระหว่างตามยึดเป็นของกลางและดำเนินคดี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง