วันนี้ (3 ส.ค. 2562) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานไปยังโรงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศ เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยภายในโรงงานและโดยรอบโรงงานเพื่อป้องกันและเฝ้าระวังสถานการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงงานที่หากเกิดเหตุแล้ว จะส่งผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง เช่น โรงกลั่นน้ำมัน โรงงานเคมีภัณฑ์ และให้กรมโรงงานอุตสาหกรรมเพิ่มความเข้มงวดและตรวจสอบผู้ผลิตและผู้นำเข้าวัตถุอันตรายที่สามารถนำไปทำเป็นวัตถุระเบิดได้
ส่วนกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ตรวจสอบและควบคุมการใช้วัตถุระเบิดในเหมืองแร่ โดยให้มีการใช้วัตถุระเบิดเฉพาะในพื้นที่ที่ได้รับการอนุญาตเท่านั้น และให้ปฏิบัติตามกฎหมายด้านความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด รวมถึงติดตามผลกระทบในเชิงเศรษฐกิจ หากสถานการณ์คลี่คลาย จะไม่มีผลกระทบมากนัก
นายวิษณุ ทับเที่ยง อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ระบุว่า ขอความร่วมมือผู้ประกอบการเหมืองแร่ควบคุมดูแลการใช้วัตถุระเบิดอย่างเข้มงวด ให้มีการใช้วัตถุระเบิดเฉพาะในพื้นที่ที่ได้รับอนุญาต เป็นไปตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2560 และกฎหมายเกี่ยวข้อง หากเกิดการกระทำผิดตามกฎหมายแร่ จะมีโทษถึงขั้นเพิกถอนประทานบัตร
น.ส.สมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ได้ยกระดับการเฝ้าระวังการรักษาความปลอดภัยและเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์กรณีฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่สถานประกอบการภายในนิคมอุตสาหกรรมแล้ว ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงงแผนปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินกรณีภัยพิบัติต่างๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน