วันนี้ (10 ต.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองทัพตุรกีเริ่มเปิดการโจมตีทั้งทางอากาศและภาคพื้นดิน ถล่มกองกำลังชาวเคิร์ด ในพรมแดนทางภาคเหนือของซีเรีย หลังสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นพันธมิตรกับกองกำลังชาวเคิร์ดในปฏิบัติการกวาดล้างกลุ่มรัฐอิสลาม หรือ ไอเอส ถอนกำลังพลออกจากพื้นที่เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
ทำให้ตุรกีสบช่องระดมอาวุธยุทโธปกรณ์ เข้าประชิดพรมแดนซีเรียทันที และยังคงส่งกำลังเสริมเข้ามาไปอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ชาวบ้านในพื้นต่างอพยพหนีการโจมตีกันโกลาหล
ทั้งนี้ รัฐบาลตุรกีกล่าวหาว่ากองกำลังชาวเคิร์ด ซึ่งมีฐานที่มั่นอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรีย เป็นกลุ่มก่อการร้ายที่มีสายสัมพันธ์กับกลุ่มติดอาวุธที่ก่อความไม่สงบในตุรกี
การโจมตีของตุรกีสร้างความวิตกให้กับนานาชาติ โดยเยอรมนีชี้ว่า การโจมตีดังกล่าวจะสั่นคลอนเสถียรภาพและอาจทำให้กลุ่มไอเอสกลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง หลังกองกำลังประชาธิปไตยซีเรีย หรือ เอสดีเอฟ ซึ่งได้รับการฝึกฝนจากสหรัฐฯ ช่วยกำราบกลุ่มไอเอสในซีเรีย แต่ก็ต้องระงับปฏิบัติการจากการโจมตีรุกคืบของตุรกี
มีรายงานว่า คณะมนตรีความมั่นคงจะประชุมร่วมกันในวันนี้ (10 ต.ค.) เพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียด หลังตุรกีเปิดการโจมตีพรมแดนซีเรีย
ด้าน โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวตอบโต้เสียงวิพากษ์วิจารณ์การตัดสินใจถอนกำลังพลสหรัฐฯ ออกจากพรมแดนซีเรีย โดยอ้างว่าต้องการมุ่งไปที่ภาพใหญ่ที่ไม่มีสหรัฐฯ เข้าไปเกี่ยวข้องกับสงครามที่ไม่จบสิ้นในตะวันออกกลาง