ผู้ส่งออกข้าวเตือนไทยอาจเสียส่วนแบ่งการตลาด หากยังเดินหน้าโครงการจำนำข้าว

20 ส.ค. 54
15:45
13
Logo Thai PBS
ผู้ส่งออกข้าวเตือนไทยอาจเสียส่วนแบ่งการตลาด หากยังเดินหน้าโครงการจำนำข้าว

นอกจากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกตันละ 15,000 บาท ที่รัฐบาลเตรียมนำมาใช้ปลายปีนี้ จะมีผลให้ราคาข้าวส่งออกของไทยสูงขึ้น และถูกคู่แข่งแย่งตลาดได้แล้ว การส่งออกข้าวไทยยังต้องเผชิญกับปัจจัยลบอื่นๆอีกหลายด้าน โดยคาดการณ์กันว่าปริมาณข้าวส่งออกปีหน้าจะลดลงถึง 2 ล้านตัน

ไม่เพียงโครงการรับจำนำข้าวในราคาตันละ 15,000 บาทจะสร้างความตื่นตระหนกเฉพาะในไทยเท่านั้น ตลาดเวียดนามซึ่งเป็นคู่แข่งยังได้รับผลกระทบจากโครงการนี้ไปด้วย หลังผู้ส่งออกในเวียดนามไม่สามารถหาข้าวเพื่อส่งออกได้จากราคาที่สูงตันละเกือบ 560 ดอลลาร์สหรัฐ จากก่อนหน้านี้เพียง 480 ดอลลาร์สหรัฐ

แม้ตลาดเวียดนามจะปั่นป่วน แต่โครงการรับจำนำที่จะเริ่มในเดือนพฤศจิกายนนี้ ทำให้นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยเชื่อว่าทำให้ตลาดข้าวอยู่ภาวะที่เรียกว่า "ช็อคโลก" และยอดสั่งซื้อลดลงชัดเจนในไตรมาสแรกปีหน้า โดยคาดการณ์ข้าวขาวที่พุ่งไปถึงตันละ 800 ดอลลาร์สหรัฐ จากปัจจุบันที่ 560 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ข้าวเวียดนามจะอยู่ที่ 600 ดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น

แหล่งข่าวจากวงการค้าข้าวประเมินว่าไทยจะสูญเสียตลาดข้าวขาวให้เวียดนามประมาณ 1 - 2 ล้านตัน เหมือนปี 2548 ที่ไทยตั้งราคารับจำนำตันละ 10,000 บาท ทำให้เวียดนามสามารถเพิ่มปริมาณส่งออกจาก 3 ล้านตันเป็นเกือบ 5 ล้านตันในปีแรก และในปัจจุบัน ลูกค้าต่างประเทศเริ่มส่งสัญญาณเบื้องต้นที่จะลดปริมาณสั่งซื้อลงแล้ว รวมถึงเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องที่จะมีผลกระทบอีกด้วย และไม่เพียงข้าวขาวที่ไทยส่งออกมากเป็นอันดับหนึ่งจะถูกเวียดนามแย่งตลาด ข้าวนึ่งยังถูกท้าทายจากอินเดียที่ประกาศจะส่งออกด้วยจำนวน 1 ล้านตัน

นายชาญชัย รักษ์ธนานนท์ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวว่า ในปัจจุบัน โรงสีหลายแห่งต่างแย่งซื้อข้าวเพิ่มขึ้น ทั้งสาเหตุนโยบายรับจำนำ และราคาข้าวในตลาดที่สูงขึ้น จากผลผลิตที่ลดลงเนื่องจากน้ำท่วม สอดคล้องกับเจ้าของโรงสีบางแห่งที่ยอมรับว่าได้กว้านซื้อข้าวทั้งจากโรงสีด้วยกัน และชาวนาจริง ส่วนราคารับจำนำที่ 15,000 บาทนั้นถือว่าสูงไป

ปัจจุบันไทยเป็นผู้ออกข้าวอันดับหนึ่งของโลกปีละ 10 ล้านตัน และจะเหลือ 8 ล้านตันในปีหน้าตามการคาดการณ์ของกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ ทางออกของผู้ส่งออกในมุมมองของนายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยในปัจจุบัน คือ ออกไปทำธุรกิจค้าข้าวในประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ใช้เวียดนามเป็นฐานส่งออก โดยอาจตั้งโรงสีข้าว, หรือตั้งสำนักงานตัวแทนค้า หรือไม่ก็ซื้อผลผลิตแล้วให้โรงสีสีข้าวให้ได้ตามคุณภาพที่ต้องการ แต่มีคำถามว่าเมื่อถึงเวลานั้น ไทยยังเป็นประเทศส่งออกข้าวรายใหญ่ของโลกอีกหรือไม่


ข่าวที่เกี่ยวข้อง