จากกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปภาพคนขับรถแท็กซี่หญิงถือมีดโต้ขณะมีปากเสียงกับคนขับรถกระบะ เนื่องจากไม่พอใจการขับขี่รถของคู่กรณี โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นในซอยวัดปลัดเปรียง ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา
คนขับรถกระบะ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถไปรับคนงานจากย่าน บางนา กรุงเทพมหานคร ผ่านเส้นทางเกิดเหตุ ซึ่งเป็นทางแยกจังหวะนั้นมีรถตัดหน้าจึงเบรกทำให้รถแท็กซี่คู่กรณีที่ขับตามมาเบรกตามพร้อมบีบแตรเปิดกระจกพูดจาไม่สุภาพใส่ก่อนจะขับรถตีคู่ลดกระจกต่อว่าด้วยคำไม่สุภาพพร้อมถือมีดโต้ยาว ตรงเข้ามาต่อว่าด้วยคำไม่สุภาพ
ขณะที่คนขับแท็กซี่หญิงวัย 52 ปี อ้างว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถตามรถคู่กรณีมา แต่เมื่อถึงทางแยกรถกระบะกลับเบรกกะทันหัน โดยไม่เปิดไฟฉุกเฉินหรือให้สัญญาณ ซึ่งก็สังเกตเห็นว่ามีรถกำลังจะออกจากทางแยกจริง แต่ยังไม่ได้ออก หากเบรกไม่ทันรถก็ชนท้ายรถกระบะซึ่งตามกฎหมายก็ต้องเป็นฝ่ายผิด แต่ยอมรับว่าเกิดความโมโหจึงต่อว่าซึ่งคู่กรณีก็ตอบโต้เช่นกัน
ส่วนมีดโต้ที่พกมาคนขับแท็กซี่หญิงอ้างว่าไม่มีเจตนาเอาไว้ทำร้ายใคร แต่เนื่องจากก่อนหน้านี้รถเสียสตาร์ทไม่ติด ช่างแนะนำว่าให้ใช้เหล็กเคาะไดสตาร์ทก็จะทำงานแต่หาเหล็กไม่ได้จึงใช้มีดโต้แทน โดยยอมรับว่าขณะเกิดเหตุมีผู้โดยสารอยู่บนรถ ซึ่งเข้าใจเหตุการณ์จึงไม่หนีลงจากรถ โดยหลังมีการเผยแพร่คลิปส่วนตัวเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นลักษณะต่อว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างหารือกับทนายความ เพื่อดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาท
กรณีนี้นอกจากพนักงานสอบสวนจะดำเนินคดีเปรียบเทียบปรับในข้อหาพกพาอาวุธมีดไปที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรแล้ว กรมการขนส่งทางบกยังมีคำสั่ง ยึดใบอนุญาตขับขี่รถสาธารณะ 30 วัน พร้อมเปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 1,000 บาท รวมทั้งส่งตัวเข้ารับการอบรมมารยาทตามข้อกำหนด เนื่องจากเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 ด้วย