หลายพื้นที่ในภาคเหนือยังประสบภัยน้ำท่วม 
ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณหน้าวัดไชยวัฒนาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยายังมีระดับสูงขึ้นและไหลเชี่ยวทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกับมีการวางแนวป้องกันน้ำถาวรเพื่อป้องกันน้ำเข้าท่วมวัด ขณะที่บรรดาร้านค้าในอำเภอเสนา และ ชาวนาอำเภอผักไห่ เร่งสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมบ้านและนาข้าว เพราะคาดว่า ระดับน้ำจะสูงขึ้นอีกในสองวันนี้จากน้ำเหนือที่จะไหลมาสมทบ เช่นเดียวกับชาวตำบลโผงเผงอำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทองที่ต้องเร่งขนย้ายสัตว์เลี้ยงไปไว้ในที่สูง เนื่องจากระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยายังระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อน ส่งผลใหบ้านกว่า 200 หลังถูกน้ำท่วม
ส่วนภาคเหนือหลายพื้นที่ยังวิกฤตโดยเฉพาะอำเภอเมือง จังหวัดน่าน เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันกู้รถขึ้นมาจากน้ำ เนื่องจากถูกน้ำป่าซัดจมหายตั้งแต่เมื่อคืนวานนี้ เช่นเดียวกับนาข้าวที่ใกล้เก็บเกี่ยวถูกน้ำป่าไหลเข้าท่วมเสียหายกว่า 500 ไร่ มีรายงานว่า เขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ เตรียมระบายน้ำเพิ่มจากเดิมวันละ 60 ล้านลูกบาศก์เมตรเป็น 100 ล้านลูกบาศก์เมตร เนื่องจากระดับน้ำในเขื่อนมีถึงร้อยละ 90 จึงประกาศเตือนประชาชนที่อยู่ในลุ่มแม่น้ำน่านระวังอันตรายจากภัยน้ำท่วมฉับพลัน
ขณะที่บ้านปางมะโอ ตำบลวังเงิน อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง เกิดเหตุดินภูเขาถล่มลงมาเกือบทับบ้านเมื่อคืนที่ผ่านมา หลังฝนหนักติดต่อกันหลายวัน นอกจากนี้ยังพบรอยแยกของพื้นดินกว่า 20 เมตร ที่พร้อมจะถล่มลงมาได้ตลอดเวลา เช่นเดียวกับตำบลแม่คำ และตำบลจันจว้า อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย น้ำแม่น้ำคำยังล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านประมาณ 1,000ห ลัง และ ขยายวงกว้างไปเรื่อย ๆ
ส่วน ด.ช.พงศกร โชเซกู่ อายุ 2 ปี ที่ถูกน้ำป่าซัดจมหายไปในตำบลแม่ไร่ อำเภอแม่จัน ล่าสุดพบศพแล้ว อยู่ใต้โคลนห่างจากบ้านประมาณ 30 เมตร เช่นเดียวกับ ด.ช.อนงศักดิ์ ดีเกิด อายุ 9 ปีที่พลัดตกลงไปในคลองตำบลนาป่า อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ ล่าสุดเจ้าหน้าที่พบศพแล้วเช่นกัน
ขณะที่นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่และมอบถุงยังชีพให้ผู้ที่ถูกน้ำท่วมใน 5 อำเภอของจังหวัดเลย ขณะที่ระดับน้ำแม่น้ำเลยลดลงเหลือ 5.50 เมตรเมตรต่ำกว่าระดับเตือนภัย 2.50 เมตร
ส่วนหมู่บ้านป่าละอู ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีการซ้อมแผนช่วยเหลือกรณีเกิดน้ำป่าและดินโคลนถล่ม เนื่องจากหมู่บ้านแห่งนี้ส่วนใหญ่อยู่ติดภูเขาและแม่น้ำปราณ ซึ่งมักเกิดน้ำป่าไหลหลากบ่อยครั้ง