วันนี้ (25 พ.ย.2563) รายงานข่าวจากฝ่ายความมั่นคง ระบุว่า จากการประเมินการชุมนุมในวันนี้ ที่ผู้ชุมนุมย้ายจุดชุมนุมจากสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ไปที่อาคารสำนักงานใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) คาดว่า เนื่องจากแกนนำ 12 คนถูกออกหมายเรียก คดี มาตรา 112 อาจทำให้มวลชนแนวร่วมเสียขวัญ ไม่แน่ใจทิศทางการชุมนุม ทำให้มาร่วมชุมนุมน้อยกว่าที่คาดไว้
อีกทั้งในจุดนัดชุมนุมเดิมที่สำนักงานทรัพย์พระมหากษัตริย์ มีแนวโน้มสูงที่จะปะทะกับกลุ่มปกป้องสถาบัน ขณะที่ท่าทีรัฐบาล-ตำรวจ คุมเข้มพื้นที่ และบังคับใช้กฎหมายในการควบคุมพื้นที่เขตพระราชฐาน ทำให้แกนนำจากการเมือง อาจไม่กล้าไปร่วมหรือไม่ไปปรากฏตัว
นอกจากนี้มีการประเมินว่า ที่สำนักงานทรัพย์พระมหากษัตริย์ มวลชนเดินทางมาร่วมชุมนุมได้ยาก อาจมาน้อย ขณะที่จุดนัดชุมนุมใหม่ ที่ SCB แนวร่วมเยาวชนและคนทำงาน เดินทางจากรถไฟฟ้ามาร่วมชุมนุมได้สะดวกกว่า
การตัดใจสินของกลุ่มราษฎร ไปชุมนุมที่อาคาร SCB มีสัญลักษณ์ และความหมายใกล้เคียงกัน ด้วยความเป็นหน่วยงานในเครือทรัพย์สินพระมหากษัตริย์
เปลี่ยนจุดชุมนุม ฝ่ายมั่นคงประเมินว่า เหตุการณ์เบาลง แต่ก็ยังเบาใจไม่ได้เพราะประเมินท่าทีได้ยาก ต้องรอดูการชุมนุมช่วงเย็นวันนี้
ข่าวแจ้งว่า เบื้องต้นคาดว่า การชุมนุมในช่วงเย็นวันนี้ ที่อาคาร SCB จะไม่มีการเคลื่อนย้ายไปจุดอื่น หรือกลับไปที่สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ และไม่ยืดเยื้อ เมื่อจัดกิจกรรมเสร็จ จะยุติการชุมนุม เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา
สำหรับการเตรียมการบังคับใช้กฎหมายเบื้องต้นฝ่ายความมั่นคงเตรียม ประกาศใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ไว้ หากการชุมนุมเกิดความวุ่นวาย แต่ถ้าถึงขั้นเกิดความไม่สงบควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ ถึงจะพิจารณาใช้กฎอัยการศึก ซึ่งจะเป็นการใช้กฎหมายควบคุมระดับสูงสุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการเตรียมกำลังเพื่อป้องกันสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ในวันนี้ นอกจากกำลังของตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) แล้ว ยังมีกลุ่มชายฉกรรจ์อีกจำนวนมาก ที่แต่งกายเหมือนผู้ชุมนุมทั่วไป แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกเป็นกลุ่มที่สวมหมวกสีขาว ยืนประจำตามจุดต่างๆ ใกล้กับกำลังของตำรวจ
ส่วนอีกกลุ่มเป็นชายฉกรรจ์แต่งกายปกติทั่วไป ไม่สวมหมวก นั่งอยู่บนถนน บริเวณเทเวศน์ เมื่อสอบถามทราบว่า เป็นทหารมาจากมณฑลทหารบกที่ 14 ค่ายนวมินทราชินี จ.ชลบุรี ซึ่งอาจเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ผู้ชุมนุมย้ายไป SCB เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากัน