ภายหลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. พิจารณาให้ใบแดงนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ส.ส.นครราชสีมา และ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จากการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง เมื่อครั้งเลือกตั้งซ่อมปี 2553
นายบุญจง กล่าวยอมรับว่า กังวลในเรื่องดังกล่าว แต่พร้อมจะพิสูจน์ความจริงในชั้นศาลอีกครั้งตามกระบวนการยุติธรรม โดยมั่นใจในข้อมูลหลักฐานต่าง ๆ ว่าจะสามารถพิสูจน์ความจริงได้ ขณะที่คลิปภาพที่ กกต.ระบุว่า กระทำผิดกฏหมายเลือกตั้งเป็นเพียงการศึกษาดูงานของราชการตามปกติซึ่งจัดเป็นประจำทุกปี
ขณะที่นายโสภณ ซารัมย์ ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภุมิใจไทย ตั้งข้อสังเกตกรณีนี้ว่าเป็นคดีแรกที่ กกต.ได้นำเรื่องเก่ามาวินิจฉัย ขณะที่เชื่อมั่นว่าจะไม่มี ส.ส.ย้ายพรรค และยังไม่ได้เตรียมพรรคสำรองหากมีกรณีการยุบพรรค เนื่องจากไม่มีแนวคิดที่จะย้ายไปพรรคการเมืองอื่น
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่ได้เป็นเกมทางการเมืองของพรรค เนื่องจากมี ส.ส.เป็นผู้ยื่นให้มีการตรวจสอบนายบุญจง ซึ่งมีคลิปภาพวิดีโอเป็นหลักฐานที่ชัดเจน แม้ว่าการทำงานของ กกต.จะมีความล่าช้าแต่ถือเป็นข้อพิสูจน์ทางกฎหมายในระดับหนึ่ง
ด้านนายเสรีย์ สุวรรณภานนท์ ในฐานะอดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรรมนูญ กล่าวว่ากรณีการกระทำผิดก่อนการเลือกตั้ง แม้จะมีการยุบสภาไปแล้วไม่ถือว่าทำให้ความผิดนั้นตกไป ซึ่งเป็นดุลยพินิจของศาลว่า จะจำหน่ายคดีนี้ หรือไม่ ขณะที่ กกต.ควรจะนำกรณีความล่าช้าในการพิจารณานี้มาทบทวนเพื่อไม่ให้มีปัญหาหาด้านกฎหมายเกิดขึ้นอีก
ก่อนหน้านี้นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ด้านสืบสวนสอบสวน ให้เหตุผลที่เพิ่งจะมีการวินิจฉัยเนื่องจากเป็นไปตามวาระการสอบสวน โดยไม่ได้เป็นเรื่องทางการเมือง ขณะที่นายบุญจง ยังคงเป็น ส.ส.อยู่จนกว่า กกต.จะส่งเรื่องศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งพิจารณา และ มติตาม กกต.จึงจะมีผลต่อสถานภาพ ส.ส.ของนายบุญจง ทันที และในฐานะที่นายบุญจง เป็นกรรมการบริาหารพรรคอาจจะนำไปสู่การยุบพรรคภูมิใจไทยด้วย