ไม่เพียงในนิทานปรัมปรา หนูตัวเล็กกระจ่อยร่อยช่วยกัดบ่วงรัดราชสีห์ที่ติดกับดักนายพราน จนแคล้วคลาดปลอดภัยเท่านั้น
แต่ในความเป็นจริง 'หนู' ในประเทศไทย ก็แผลงฤทธิ์ช่วยราชสีห์ในยามคับขันได้เช่นกัน
หนำซ้ำ เป็นถึงพญาราชสีห์ที่เป็นเจ้าป่า มีอำนาจล้นเหลือเหนือสัตว์น้อยใหญ่มานานถึง 7 ปีเต็ม
'หนู' อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ-รัฐมนตรีสาธารณสุข และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่เมื่อวันก่อน นำพารัฐมนตรีของพรรคทั้ง 7 คน บอยคอตไม่ร่วมประชุมครม. ร่วมพิจารณาต่อสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียวมาหมาดๆ
วลี "หนูช่วยหน่อยนะ" ที่สื่อนำมาเปิดเผยและเผยแพร่ในวันปิดห้องสีเหลืองที่ทำเนียบรัฐบาลคุยกันต่อหลังประชุมศบค. ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับรัฐมนตรีจาก 2 พรรค พปชร.และภูมิใจไทย ที่เกี่ยวข้องกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว
"หนูช่วยหน่อยนะ" ถูกขยายผลเพิ่มเติม ว่าเป็นผลจากนายอนุทิน บอกกับนายกรัฐมนตรีให้เดินหน้าสู้ต่อ แม้จะมีหลายเรื่องรุมเร้ารัฐบาล รวมทั้งปัญหาสภาล่มซ้ำซาก เนื่องจากเสียงในที่ประชุมสภามีไม่ถึงกึ่งหนึ่งของส.ส.ที่ร่วมประชุม พร้อมกางรายชื่อ ส.ส.ในมือที่มีอยู่ 260 เสียงให้นายกฯดูเพิ่มแรงฮึด
260 เสียงที่ยืนยันสนับสนุน "บิ๊กตู่" มีทั้งจากรัฐบาล และฝ่ายค้าน ซึ่งกลุ่มหลัง ว่ากันว่ามีมากถึง 20 คน พอๆ กับกลุ่มส.ส.พปชร.ที่ถูกขับออกจากพรรคพร้อมกับร.อ.ธรรมมนัส พรหมเผ่า
สะท้อนให้เห็นถึงศัยภาพและการได้รับการยอมรับของนายอนุทิน และพรรคภูมิใจไทยที่ใครจะมองข้ามไม่ได้
นายอนุทินยอมรับว่า เสียงส.ส.ที่เกินมาจากตัวเลขปกติของพรรคร่วมรัฐบาลนั้ัน เกิดจากในช่วง 1 ปีสุดท้ายก่อนครบวาระรัฐบาล มักจะมี (กลุ่ม) ส.ส.ต้องการย้ายพรรคใหม่ มีการแสดงเจตจำนงค์และสนใจจะเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองกับพรรคภูมิใจไทย โดยได้ประสานและเจรจา พร้อมยื่นเงื่อนไขให้แสดงจุดยืนสนับสนุนฝายรัฐบาลในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ เพื่อแสดงความจริงใจ ปรากฎว่ามีเสียงตอบรับเป็นอย่างดี จึงเป็นที่มาของรายชื่อ
ความจริงในทางปฏิบัติ มีส.ส.จำนวนหนึ่ง ที่แสดงท่าทีต้องการย้ายเข้าเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทยชัดเจนแล้วหลายคน เช่น จากพรรคก้าวไกล มี ส.ส.เชียงราย 2 คน ส.ส.ชลบุรี 1 คน และนายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ นอกจากนี้ ยังมีอีกบางคน ที่ตัดสินใจจะย้ายค่ายเช่นกันในการเลือกตั้งครั้งหน้า
นี่เองที่ทำให้สถานการณ์ที่ดูเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำของ "บิ๊กตู่" กลับมีแรงฮึดขึ้นมาอีกครั้ง โดยมี"หนู"นายอนุทิน เป็นตัวช่วยสำคัญของพญาราชสีห์
และอาจทำให้สถานการณ์ทางการเมืองนับจากนี้ โดยเฉพาะในช่วงที่ต้องมีการลงมติโหวตเสียง เช่น อภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 ที่พรรคเพื่อไทยยืนยันจะยื่นซ้ำทันทีที่เปิดประชุมสภาสมัยหน้า อาจมี"เจ้าของสวนกล้วย"คนใหม่ โผล่ขึ้นมามีบทบาทแทนเจ้าของสวนกล้วยคนเดิม
แต่ไม่เกี่ยวกับเรื่อง "รถไฟฟ้าสายสีเขียว" ซึ่งต้องมีเจรจาต้าอ้วยกันต่อ เพื่อให้ "วิน-วิน"ทั้ง 2 ฝ่าย
อย่างไรก็ตาม ใช่ว่า การเมืองในช่วง 1 ปีสุดท้ายด้วยฝีมือประสานสิบทิศของ "หนู-อนุทิน" จะราบรื่นไร้อุปสรรคขวากหนาม เพราะ 260 เสียงที่ "หนู" อ้างถึงก็เป็นตัวเลขในทางทฤษฎี ขณะที่ข้อเท็จจริง เมื่อหัก 20 ส.ส.กลุ่มร.อ.ธรรมมนัส ออกไปแล้ว จะเหลือจำนวนส.ส.ฝ่ายรัฐบาลเพียง 247 เสียง มากกว่ากึ่งหนึ่งเพียง 10 เสียงเท่านั้น
การประชุมนัดสำคัญๆ ที่ต้องลงมติ คงหนีไม่พ้นข้อกำหนดห้ามขาด ห้ามลา และอาจถึงขั้นห้ามเข้าห้องน้ำ หรือหากเข้าห้องน้ำได้ อาจต้องใช้วิปรัฐบาลยืนประกบอยู่หน้าห้องน้ำป้องกันหายตัวหรือชิ่งหนี