"เพื่อไทย" ค้านปลดโควิดออกจากโรคฉุกเฉิน เหตุเพิ่มภาระให้ประชาชน

การเมือง
18 ก.พ. 65
14:44
369
Logo Thai PBS
"เพื่อไทย" ค้านปลดโควิดออกจากโรคฉุกเฉิน เหตุเพิ่มภาระให้ประชาชน
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"ธีรรัตน์" ค้านรัฐบาลปลดโควิดออกจาก UCEP ชี้เป็นการเพิ่มภาระให้ประชาชน ตั้งข้อสังเกต "พล.อ.ประยุทธ์" สั่งปิดประเทศไม่สนคำทักท้วง เอื้อประโยชน์ บ.ประกันภัยหรือไม่ แย้มรัฐบาลเตรียมซื้อเครื่องบินเพิ่มอีก แนะยุบ ศบค.ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และให้ นายกฯ ลาออก

วันนี้ (18 ก.พ.2565) น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.เพื่อไทย อภิปรายทั่วไป คัดค้านการปลดโควิด-19 ออกจากโรคฉุกเฉิน (UCEP ) ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม และเปHนการผลักภระให้ประชาชน ขณะที่ตัวเลข ATK ที่สูงขึ้นต้องเฝ้าระวังและติดตาม จึงยังไม่ควรปลดโควิด-19 ออกจากโรคฉุกเฉิน

น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องจากยังไม่เห็นว่าโควิด-19จะเป็นโรคประจำถิ่น ซึ่งโรคประจำถิ่นจะต้องสามารถบอกพฤติกรรมของโรคได้ว่า เกิดในฤดูกาลใด เกิดขึ้นแล้วจะเกิดความเสียหาย เจ็บป่วยหนักถึงขั้นเสียชีวิตในระดับใด

แม้รัฐบาลจะบอกว่า การปลดโรคโควิด-19 ออกจาก UCEP ก็สามารถรักษาได้ตามสิทธิที่ทุกคนมีทั้งสิทธิบัตรทอง สิทธิประกันสังคม สิทธิข้าราชการ แม้จะบอกว่าจะมีการรักษาฟรี แต่ก็มีรายงานว่า ขณะนี้เตียงของโรงพยาบาลรัฐเต็มทั้งหมดแล้ว นอกจากนี้ยังมีปัญหาการเดินทางการขนส่งผู้ป่วยไม่พร้อม และปัญหาการรักษาระบบ HI ที่ประชาชนอาจพักอาศัยในบ้านที่ไม่สะดวกต่อการกักตัวเช่น อยู่กันหลายคน อยู่ในชุมชนแออัด เป็นต้น

การปลดโรคโควิดออกจาก UCEP ถือเป็นเป็นการผลักภาระให้ประชาชนซ้ำแล้วซ้ำเล่า รัฐบาลบอกได้หรือไม่ว่า หากผู้ป่วยติดเชื้อแต่ไม่รุนแรงไม่เข้าเกณฑ์ฉุกเฉิน แต่ต้องกักตัวสถานที่เฉพาะแต่ที่บ้านไม่พร้อม หน่วยงานใดจะเข้ามารับผิดชอบค่าใช้จ่าย รวมถึงกรณีเกิดความสูญเสียรัฐบาลต้องตอบให้ชัด หากตอบเพียงแม้ว่าจะยังรักษาฟรีตามสิทธิ แต่ไม่อาจสร้างความมั่นใจให้ประชาชนได้เลย

 

น.ส.ธีรัตน์ ยังกล่าวว่า รัฐธรรมนูญม.47 วรรค3 ระบุว่า บุคคลต้องมีสิทธิได้รับการปกป้องจากโรคติดต่ออันตรายโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งอยากให้รัฐบาลตระหนักและดูแลประชาชนอย่างเท่าเทียม รวมถึงกรณี คปภ.ที่ได้รับคำขอยกเลิกประกันภัย 3 เจ้า โดยขณะที่แนวโน้มการแพร่ระบาดยังรุนแรง ขณะที่ บ.เหล่านี้พยายามยกเลิกกิจการ ทั่วโลกไม่มี บ.ไหนที่ออกให้มีประกันโควิด ขณะที่ยังมีการปิดประเทศเพื่อป้องกันโควิด -19 จนเกินพอดีทำให้ขาดความสมดุลในการแพร่ระบาดและเศรษฐกิจ

น.ส.ธีรรัตน์ ยังระบุว่า ข้อสงสัยในประกัน "เจอ-จ่าย-จบ" ในช่วงที่อนุญาตให้มีการขายกรมธรรม์ "เจอ-จ่าย-จบ" เกิดขึ้นในช่วงที่มีวัคซีนแล้ว มีการขายกรมธรรม์ได้เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมีการระบาดของโรคหนักขึ้น บ.กลับขอยกเลิกกรมธรรม์ ซึ่ง กมธ.คุ้มครองผู้บริโภคฯได้รับเรื่องร้องทุกข์จำนวนมากโดยมีประชาชนถูกยกเลิกเกือบ 2 ล้านคน และยังมีผู้ถือกรมธรรม์อื่นอีกเกือบ 10 ล้านรายที่เกิดผลกระทบกับประกันประเภทอื่น และยังมีอีกเกือบ 10 บ.ที่จะขอปิดตัวเอง

ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ มาแก้ปัญหาให้ประชาชน เพื่อขจัดข้อสงสัยที่ว่า คำสั่งปิดประเทศที่ไม่ฟังข้อมูลใด ๆ จากผู้ทักท้วงเป็นเพราะต้องการเอื้อให้กับนายทุนได้ประโยชน์ในธุรกิจประกันภัยใช่หรือไม่ หรือเป็นการขจัดข้อสงสัยที่ว่า 1 ใน บ.ที่เสนอยกเลิกเป็น บ.ที่เคยซื้อที่ดินราคา 600 ล้านบาท จากสมาชิกในครอบครัว พล.อ.ประยุทธ์

น.ส.ธีรรัตน์ ยังกล่าวว่า ขอทวงถามถึงผู้มีส่วนให้เกิดการระบาดว่าขณะนี้คืบหน้ามากเพียงใด และนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษหรือยัง

นอกจากนี้ กรณีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อการศึกษาเป็นตัวกระตุ้นให้เห็นความเหลื่อมล้ำของนักเรียนในเมืองและต่างจังหวัด โดยได้รับฟังความเห็นจาก ผอ.โรงเรียนในต่างจังหวัดที่ต้องนำเงินส่วนตัวหรือจัดผ้าป่าเพื่อนำเงินมาไปจัดซื้อชุดตรวจ ATK ขณะที่บางพื้นที่มี ส.ส.นำชุดตรวจไปแจกให้ฟรี

ทั้งนี้ผลกระทบโควิด-19 ทำให้เด็กหลุดออกจากระบบ 1.2 ล้านคน นอกจากนี้รัฐบาลยังแก้ไขปัญหาไม่เป็นระบบ ในกรณีเรียนออนไลน์ โดยให้เพียงเงิน 2,000 บ. ซึ่งยังมีปัญหาทั้งอุปกรณ์ที่เหมาะสมซึ่งเป็นภาระของครอบครัวที่ยากจน ซึ่งกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาเคยของงบประมาณ 2,000 ล้านบาท แต่ก็ถูกตัดออก และแม้ว่าปีหนี้จะยื่นงบประมาณอีกครั้งก็ขอว่า รัฐบาลอย่าตัดงบประมาณในส่วนนี้อีก

น.ส.ธีรรัตน์ ยังระบุว่า วานนี้ (17 ก.พ.2565) ทราบข่าว บ.จากสหรัฐอเมริกาเปิดเผยว่า รัฐบาลกำลังเตรียมซื้อเครื่องบิน F-35 เพิ่มอีก เปรียบได้รัฐบาลเชี่ยวชาญการซื้ออาวุธแต่เคยที่จะติดอาวุธทางปัญญาให้ประชาชน

แนะนำว่ารัฐบาลถ้าจะปลดโควิดออกจาก UCEP ขอให้พิจารณาให้ดีเสียก่อน ว่ารัฐบาลกำลังจะทำลายผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนและประเทศชาติหรือไม่ หรือหากจะยุบ ก็ขอให้รัฐบาลยุบ ศบค.และยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่มีวัตถุประสงค์เพียงการจำกัดเสรีภาพของกลุ่มผู้เรียกร้องทางการเมือง และวิธีการที่ดีที่สุด และควรที่จะทำคือ ลาออกจากตำแหน่ง นายกฯจะเป็นคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติอย่างสูงสุด

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง