ชลประทานนครสวรรค์ เตือนประชาชนรับน้ำเหนือ

ภัยพิบัติ
26 ก.ค. 65
07:25
347
Logo Thai PBS
ชลประทานนครสวรรค์ เตือนประชาชนรับน้ำเหนือ
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ชลประทาน จ.นครสวรรค์ เตือนประชาชนในพื้นที่ลุ่ม เตรียมรับมือน้ำจากทางภาคเหนือ เนื่องจากระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้น คาด 27 ก.ค. มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 850-1,000 ลบ.ม./วินาที

วันนี้ (26 ก.ค.2565) หลังฝนตกหนักในภาคเหนือในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ประกอบกับในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ มีฝนตกต่อเนื่อง ส่งผลให้ระดับน้ำสายหลักต่าง ๆ ทั้ง แม่น้ำปิง แม่น้ำยม และแม่เจ้าพระยา มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น

 

นายศุภชัย มโนการ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานจังหวัดนครสวรรค์ กล่าวว่า ปีนี้ฝนมาค่อนข้างเร็ว ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์ว่าจะมีปริมาณน้ำมากใกล้เคียงกับปี 2560 ส่วนของ จ.นครสวรรค์ ได้เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำหลากในช่วงฤดูฝน ทั้งการพร่องน้ำจากอ่างเก็บน้ำ และเคลียร์เส้นทางน้ำสายต่าง ๆ ให้ไหลสะดวกเพิ่มมากขึ้น

นอกจากนี้ เตือนประชาชนในพื้นที่ลุ่มเฝ้าระวังรับมือน้ำที่จะไหลมาจากทางภาคเหนือระยะนี้ เพราะคาดว่ามวลน้ำจากทางภาคเหนือที่จะเดินทางมาจาก จ.สุโขทัย พิษณุโลก และพิจิตร มารวมที่สถานีวัดระดับน้ำ N.67 อ.ชุมแสง ในวันพรุ่งนี้ (27 ก.ค.) ทำให้ระดับน้ำจะสูงขึ้นจากเดิมอีกประมาณ 35 เซนติเมตร

 

ส่วนแม่น้ำเจ้าพระยา ที่สถานีวัดระดับน้ำ C.2 น้ำจะสูงขึ้นอีกประมาณ 30 เซนติเมตร อาจทำให้เกิดน้ำล้นตลิ่งในลุ่มแม่น้ำยมและแม่น้ำน่าน ซึ่งจะส่งผลกระทบให้พื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนประชาชน ถูกน้ำท่วมเป็นบางส่วน สำหรับชาวนาหากเก็บเกี่ยวในฤดูกาลนี้แล้ว ให้หยุดการทำนาเนื่องจากเสี่ยงต่อความเสียหายจากน้ำท่วมได้

ส่วนพื้นที่ที่อยู่ถัดลงมาอย่าง จ.อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา ก็ต้องเตรียมรับมือเช่นกัน เพราะกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ คาดการณ์ว่า พรุ่งนี้น้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาจะมีมากขึ้น จึงจำเป็นต้องระบายน้ำในอัตรา 850-1,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที

ทำให้พื้นที่ริมน้ำจะมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากตอนนี้อีกประมาณ 60-80 เซนติเมตร บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำแถวคลองโผงเผง จ.อ่างทอง, คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา และแม่น้ำน้อย แถว ต.หัวเวียง อ.เสนา และ ต.ตลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา

 

ขณะที่ กรุงเทพฯ เตรียมรับมือกับน้ำที่กำลังไหลลงมาแล้ว เมื่อวานนี้ (25 ก.ค.) ผู้ว่าฯ กทม. รองผู้ว่าฯ กทม. และแม่ทัพภาคที่ 1 ลงพื้นที่ไปดูแนวทางการเร่งขุดลอกคลองเพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มศักยภาพของการระบายน้ำในคลองแสนแสบและคลองลาดพร้าว

รวมถึงการจัดเก็บขยะที่มาอุดตัน กีดขวางทางระบายน้ำ เพราะแต่ละวันจะมีขยะจากทั้ง 2 คลอง มาบรรจบที่จุดนี้รวมวันละ 10,000 กิโลกรัม ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการระบายน้ำมาก

ด้านนายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ส.ส.กทม. เขตห้วยขวาง พรรคเพื่อไทย เสนอ กทม. ขอให้หาวิธีตัดน้ำหรือแบ่งน้ำ เพื่อระบายแล้วจะได้ไม่เกิดผลกระทบต่อการบริหารจัดการน้ำ หากต้องระบายพร้อมกันทั้ง 2 คลอง

 

สำหรับคลองลาดพร้าว และคลองแสนแสบเป็น 2 คลองหลัก ที่มีผลการระบายน้ำของ กรุงเทพฯ ซึ่ง กทม.ระบุว่า หากขุดลอกคลองได้เสร็จเร็วขึ้น จะช่วยรองรับการระบายน้ำในกรุงเทพฯ ได้มาก ก่อนระบายออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง