ประท้วงไล่ "ผอ.ยึดมือถือ" ชี้ไม่เหมาะสม

กรณีที่ผู้ปกครองนักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.บุรีรัมย์ แจ้งความตำรวจหลังตรวจพิกัดจีพีเอสจากมือถือที่หายไปแล้วพบว่าอยู่กับ ผอ.โรงเรียน  แต่ไม่ยอมคืนให้เด็ก หลังจากผ่านไป 3 วัน

วันนี้ (19 ก.ย.2565) มีรายงานว่า ผอ.โรงเรียนมัธยม ที่ถูกนักเรียน ม.2 แจ้งความกล่าวหาว่าลักทรัพย์มือถือ เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.หนองสองห้อง  เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา แต่ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้เจตนาจะขโมยเอามือถือของเด็กไปเป็นการยึดไว้เท่านั้น  

ด้านผู้ปกครองนักเรียนผู้เสียหาย กล่าวว่า รู้สึกไม่สบายใจกลัวจะไม่ได้รับความเป็นธรรม และกลัวลูกชายจะถูกกลั่นแกล้ง ที่แจ้งความเอาผิด ผอ.จึงอยากให้ทางต้นสังกัดได้พิจารณาสั่งย้าย ผอ.เพื่อความเป็นธรรม และมองว่าการกระทำของ ผอ.ก็ไม่สมควรที่จะเป็นแบบอย่างให้กับเด็ก

ยังคาใจว่าหาก ผอ.ไม่ได้เจตนาจะเอามือถือของลูกชายไปจริงทำไม่แจ้งคนอื่นทราบ หรือเอามาคืนแต่แรก แต่ปล่อยไปถึง 3 วันจนมีการแจ้งความและพยายามใช้แอปค้นหาเอง

ส่วนที่ ผอ.ไปที่บ้าน พยายามจะไปขอเคลียร์และขอโทษ โดยอ้างว่าไม่ได้เจตนาจะมือถือของลูกชายไป แต่ได้ชี้แจงไปว่าตอนนี้ เรื่องถึงตำรวจแล้ว ก็ต้องว่าไปตามขั้นตอน ส่วนพ่อแม่กลัวว่าลูกจะเครียดจึงคอยให้กำลังใจลูกตลอด

เด็กอ้างผอ.ลงโทษรุนแรง-ประจานหน้าเสาธง

ขณะที่นักเรียนทั้งระดับชั้น ม.ต้น และม.ปลายของโรงเรียนหลายคน รวมตัวกันออกมาแฉพฤติกรรมของ ผอ.โรงเรียน โดยให้ข้อมูลว่า ผอ.ออกกฎระเบียบที่เข้มงวดเกินไปทั้งเรื่องทรงผม ห้ามเอาโทรศัพท์ไปโรงเรียนทั้งที่ครูบางวิชาก็อนุญาต เพราะจะต้องใช้ค้นหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต และชอบยึดของเด็กนักเรียนแล้วไม่ยอมคืนให้

ทั้งนี้มีการเผยคลิป ขณะที่ผอ.ยึดเครื่องหนีบผม ที่เด็กเอาไปไว้ในห้องเรียน ซึ่งอาจจะผิดกฎระเบียบ แต่ผอ.ยึดไปแล้วก็ไม่ได้แจ้งว่าจะยึดไว้กี่วันแล้วจะคืนให้วันไหน ตอนนี้ก็ยังไม่คืนให้กับนักเรียน

 

นอกจากนี้ ยังใช้ไม้ตีทำโทษเด็กนักเรียนทั้งชาย และหญิงหลายคน ที่ออกไปดูกิจกรรมกีฬานอกโรงเรียน จนเขียวช้ำเลือดซึม

หากนักเรียนคนไหนทำผิดระเบียบ ก็ประกาศประจานหน้าเสาธงทำให้รู้สึกอับอาย ทั้งที่ควรจะเรียกมาตักเตือนส่วนตัวก็ได้ จึงอยากให้ย้าย ผอ.ออกจาก ร.ร.เพราะมองว่ามีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม