"อนุชา" ดูเดี่ยว 13 ชี้วิจารณ์เกินเลยไปบ้าง-ไม่รู้นายกฯ ดูหรือยัง

การเมือง
14 ต.ค. 65
12:49
476
Logo Thai PBS
"อนุชา" ดูเดี่ยว 13 ชี้วิจารณ์เกินเลยไปบ้าง-ไม่รู้นายกฯ ดูหรือยัง
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
รมต.สำนักนายกฯ ดู "เดี่ยว 13" คร่าว ๆ แล้ว ชี้เป็นธรรมดาที่มีการวิพากษ์การทำงานเพราะความคิดการเมืองไม่ตรงกัน แต่ส่วนตัวมองว่ามีหลายส่วนที่วิจารณ์เกินเลยไปบ้าง และไม่ทราบว่านายกฯ ดูหรือยัง

วันนี้ (14 ต.ค.2565) นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปรากฏการณ์การวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของนายกรัฐมนตรี ใน "เดี่ยว 13" ว่า เป็นธรรมดาในเรื่องความคิดเห็นทางการเมืองที่มีความเห็นไม่ตรงกันเสมอ นี่คือระบอบประชาธิปไตย ดังนั้น ความคิดเห็นที่แตกต่างเป็นเรื่องธรรมดาของสังคม

ส่วนรัฐบาลพร้อมรับฟังความคิดเห็นหรือไม่ นายอนุชา ระบุว่า หากเป็นคำวิจารณ์ที่ตรงไปตรงมาไม่ประกอบด้วยอคติ เอาสนุกอย่างเดียว ก็คิดว่าไม่มีปัญหา แต่หากคำวิจารณ์นั้น ประกอบด้วยอคติ และใส่เจตคติบางอย่าง ก็ทำให้สังคมเกิดความเคลือบแคลงย่อมเป็นไปได้ เพราะเป็นศิลปินที่ส่วนตัวมองว่า สังคมติดตามให้ความสนใจ

เรื่องนี้ส่วนมากศิลปินจะไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นทางการเมือง เพราะเป็นผู้ทรงอิทธิพลทางความคิด ก็ต้องไปพิจารณาว่าอะไรเกิดขึ้นอย่างไร แต่สิ่งที่กล่าวไป ทุกคนที่มีเจตนาบริสุทธิ์ เป็นเรื่องของประชาธิปไตย

ส่วนกรณีที่โน้ส อุดม มีการวิพากษ์วิจารณ์ในเดี่ยว 13 มีเจตนาบริสุทธิ์หรือติดตลกอย่างที่ว่าหรือไม่ นายอนุชา ระบุว่า มีหลายส่วนที่ตนคิดว่าไม่เหมาะสม

ในฐานะที่เรามีรัฐบาล มีผู้นำ บางอย่างคิดว่าก็เกินเลยไปบ้าง

ส่วนจะมีการดำเนินคดีหรือให้ฝ่ายกฎหมายติดตามหรือไม่ นายอนุชา กล่าวว่า เรื่องนี้ตนเองไม่ทราบ และไม่ทราบว่า นายกรัฐมนตรี ได้ดูเดี่ยว 13 หรือยัง แต่ส่วนตัวดูคร่าว ๆ นิดหน่อย และเห็นกระแสวิเคราะห์ของสังคมที่แบ่งกันเป็นฝักเป็นฝ่าย เป็นกระแสวิจารณ์ทั้งฝ่ายเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ก็เป็นเรื่องธรรมดา

เมื่อถามว่าโน้ส อุดม ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์ในหลายรัฐบาล ตั้งแต่สมัยนายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี นั้น นายอนุชา กล่าวว่า ค่อนข้างที่จะไม่เหมือนกัน การวิพากษ์วิจารณ์ในระบบธรรมดาทุกคนก็เห็นได้ว่าต่างกันหรือไม่ ต่างกันอย่างไร หากเปิดใจเป็นธรรมก็จะเห็น สื่อก็เห็นว่า การวิจารณ์อาจมีความแตกต่างกันบ้าง หากจะบอกว่าเหมือน คงไม่ใช่

"ศิธา" แนะรัฐบาลใจกว้างรับฟัง "เดี่ยว 13"

น.ต.ศิธา ทิวารี เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล ในการทอล์กโชว์ "เดี่ยว 13 " ของโน้ส-อุดม แต้พานิช ว่า หลักประชาธิปไตยต้องมีการวิพากษ์วิจารณ์ ผู้มีอำนาจได้ และผู้มีอำนาจเองก็ต้องใจกว้างที่จะรับฟัง ซึ่งกว้างก็ต้องกว้างจริงๆ ไม่ใช่กว้างแบบทะเลแล้วเค็ม แม้ว่ารัฐบาลจะไม่ได้พูดอะไรแต่สั่งให้ลูกน้องไปแจ้งความดำเนินคดีแบบนี้ก็ไม่ได้

ไปไล่บี้เขา เกิดร้อยมันจะเข้าข่ายที่เรียกว่าปราบสิบเกิดร้อย ปราบร้อยเกิดพัน ยิ่งปัจจุบันเป็นยุคโซเชียลมีเดีย หากคุณคิดว่าจะเอาข้อกฎหมายไปปิดปากประชาชน มันจะไม่ใช่แค่ปราบสิบแล้วเกิดร้อย น่าจะเป็นปราบสิบแล้วเกิดหมื่น


ทั้งนี้ หากมองจากเทรนด์ทวิตเตอร์แล้วรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องระวัง คือ ต้องเปิดโอกาสให้ประชาชนได้พูด เพราะก่อนหน้านี้มีกรณีศิลปิน 4 คนที่ไปร้องเพลงวิจารณ์รัฐบาลแล้วถูกดำเนินคดี ซึ่งหากโน้ส-อุดม จะถูกดำเนินคดี รวมไปถึงการดำเนินคดีกับบุคคลที่ประชาชนชื่นชอบ อยากให้รัฐบาลคิดใหม่ ไม่เช่นนั้นรัฐบาลจะเสียเปรียบ

ส่วนกระแสการรวมพรรคการเมืองกับพรรคสร้างอนาคตไทย ยอมรับว่า มีความเป็นไปได้เนื่องจากระบบการเลือกตั้งแบบใหม่ เพื่อให้ได้ ส.ส. มากกว่า 25 คน เพราะเป็นเงื่อนไขหนึ่งในการส่งชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พร้อมระบุว่า ความคืบหน้าในการเจรจามีเพียง 10% และข่าวที่นำเสนอออกไปนั้นเกินกว่าข้อเท็จจริง ซึ่งยังมีเรื่องที่ต้องพูดคุยกันอีกมาก เช่นเรื่องนโยบายที่ต้องสะเด็ดน้ำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง