คนแรกของไทย "นพ.สุนทร" รับรางวัล "การทูตสาธารณะ"

สังคม
21 ต.ค. 65
13:42
773
Logo Thai PBS
คนแรกของไทย "นพ.สุนทร" รับรางวัล "การทูตสาธารณะ"
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
นพ.สุนทร อันตรเสน แพทย์เฉพาะทางแผนกหู คอ จมูก รพ.ราชวิถี คว้ารางวัล “การทูตสาธารณะ” คนแรกของไทย ผลงานเด่นจัดตั้งโครงการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ตรวจรักษา-ผ่าตัดโรคหูน้ำหนวกให้ประชาชนพื้นที่ห่างไกลในประเทศต่าง ๆ กว่าเวลา 30 ปี รักษาแล้ว 70,000 คน

วันที่ 20 ต.ค.2565 กระทรวงการต่างประเทศ และมูลนิธิไทย ได้ร่วมจัดพิธีมอบรางวัลการทูตสาธารณะ ประจำปี 2565 (Public Diplomacy Award) เป็นปีแรก ณ วิเทศสโมสร กระทรวงการต่างประเทศ

นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า การทูตสาธารณะเป็นส่วนสำคัญในการดำเนินการด้านนโยบายระหว่างประเทศ พร้อมไปกับการทูตแบบดั้งเดิม โดยมีเป้าหมายสร้างเสริมและขยายความเข้าใจเกี่ยวกับประเทศไทย และสร้างสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงชาติระหว่างไทยกับโลก

รางวัลนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับบุคคลอื่น ๆ เดินตามรอย

นายจิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา ประธานกรรมการมูลนิธิไทย เป็นผู้มอบรางวัลให้กับ นพ.สุนทร อันตรเสน แพทย์เฉพาะทางแผนกหู คอ จมูก โรงพยาบาลราชวิถี ซึ่งมีตัวแทนคณะทูตต่างประเทศ องค์การระหว่างประเทศ ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และสื่อมวลชน เข้าร่วมด้วย

นพ.สุนทร กล่าวภายหลังรับรางวัลว่า รู้สึกเป็นเกียรติเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัลการทูตสาธารณะ “ถ้างานของเราถือเป็นการลงทุนในทุนมนุษย์ ความสำเร็จเชิงประจักษ์คงพัฒนาในวงกว้างเช่นนี้ไม่ได้ ถ้าไม่ได้รับความร่วมมือจากทุกท่าน”

สำหรับ นพ.สุนทร ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาโรงพยาบาลราชวิถี และกรรมการมูลนิธิโรงพยาบาลราชวิถี มีผลงานโดดเด่นในการจัดตั้งและดำเนินโครงการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เดินทางไปให้บริการตรวจรักษาและผ่าตัดโรคหูน้ำหนวกให้แก่ประชาชนในท้องถิ่นพื้นที่ห่างไกลในประเทศต่าง ๆ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านของไทย ตลอดระยะเวลามากกว่า 30 ปี รวมแล้วมากกว่า 80 เมือง ใน 10 ประเทศ และรักษาผู้ป่วยไปแล้วกว่า 70,000 คน อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างบุคลากรทางการแพทย์จำนวนมากทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ

ทั้งนี้ “รางวัลการทูตสาธารณะ” เป็นรางวัลที่กระทรวงการต่างประเทศและมูลนิธิไทย ตั้งขึ้นเพื่อเชิดชูเกียรติบุคคล กลุ่มบุคคล หรือองค์กร ที่ไปดำเนินงานงานด้านสาธารณประโยชน์ ด้านมนุษยธรรม ด้านวัฒนธรรม กีฬา นวัตกรรม จนสามารถสร้างชื่อเสียงแก่คนไทยและประเทศไทย และได้รับการยอมรับในต่างประเทศ

ผู้ที่ได้รับรางวัล จะได้รับถ้วยรางวัล ที่มีชื่อว่า “Goodwill” หรือ “ความปรารถนาดี” พร้อมประกาศนียบัตร และเงินรางวัลจำนวน 500,000 บาท เพื่อเป็นทุนทรัพย์ในการสานต่อภารกิจต่อไป และจะได้รับการสลักชื่อบนถ้วยรางวัลใหญ่และกำแพงเกียรติยศที่จะจัดแสดงเป็นการถาวรไว้ที่กระทรวงการต่างประเทศ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง