ความสำเร็จในการออกแถลงการณ์ร่วมเกิดจากความร่วมมือของอินโดนีเซียและอินเดียในการหาถ้อยคำที่เหมาะสมและได้รับการยอมรับจากรัสเซียและจีน หลังจากหลายฝ่ายคาดว่า ความเห็นที่ไม่ลงตัวกันของชาติสมาชิก G20 เกี่ยวกับสงครามรัสเซีย-ยูเครน อาจทำให้ที่ประชุมไม่สามารถออกแถลงการณ์ร่วมฉบับนี้ได้
ขณะที่ผู้นำอินโดนีเซียได้ส่งไม้ต่อให้กับผู้นำอินเดียเพื่อรับหน้าที่ประธาน G20 ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.นี้ เป็นต้นไป โดยประธานาธิบดีโจโค วีโดโด ยื่นค้อนให้นายกรัฐมนตรีนเรนดรา โมดี เป็นสัญลักษณ์ของการส่งมอบตำแหน่งประธาน G20 ซึ่งอินเดียจะนั่งเก้าอี้ประธาน G20 อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.ปีนี้ ไปจนถึงวันที่ 30 พ.ย.2566
ผู้นำชาติสมาชิกกลุ่ม G20 เห็นชอบการออกแถลงการณ์ร่วม 16 หน้า โดยไม่มีการปรับเปลี่ยนเนื้อหาใด ๆ ซึ่งแถลงการณ์ร่วมฉบับนี้ ระบุว่า สมาชิกส่วนใหญ่ประณามการทำสงครามในยูเครนด้วยท่าทีแข็งกร้าว เนื่องจากสงครามตลอด 8 เดือนที่ผ่านมา สร้างความเดือดร้อนและซ้ำเติมปัญหาเศรษฐกิจโลก
แม้ว่าเวที G20 จะไม่ใช่เวทีแก้ปัญหาความมั่นคง แต่ชาติสมาชิกเห็นว่าปัญหาความมั่นคงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก และการใช้หรือการขู่ว่าจะใช้อาวุธนิวเคลียร์เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ ในขณะที่การยึดมั่นกฎหมายระหว่างประเทศเป็นสิ่งสำคัญ
แถลงการณ์ร่วมฉบับนี้ยังได้เรียกร้องให้แก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยสันติวิธี เนื่องจากในยุคปัจจุบันจะต้องไม่กลายเป็นยุคแห่งสงคราม โดยผู้นำชาติสมาชิก G20 ยังได้ให้คำมั่นในการบรรเทาผลกระทบจากปัญหาราคาอาหารและพลังงานที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์
นอกจากนี้ ยังเดินหน้ายกระดับระบบสาธารณสุขและแลกเปลี่ยนข้อมูลต่างๆ เพื่อรับมือกับโรคระบาดใหญ่ในอนาคต ซึ่งความสำเร็จของการออกแถลงการณ์ร่วม 16 หน้าฉบับนี้ ถือเป็นชัยชนะของชาติตะวันตก อินโดนีเซียและอินเดีย เนื่องจากชาติตะวันตกต้องการชี้ให้เห็นถึงผลกระทบของสงครามต่อความมั่นคงทางอาหารและพลังงานในระดับโลก
ด้านอินโดนีเซียและอินเดียทำงานอย่างแข็งขัน เพื่อเฟ้นหาถ้อยคำที่เหมาะสมและได้รับการยอมรับจากรัสเซียและจีน ขณะที่เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ระบุว่า ชาติตะวันตกพยายามทำให้เวทีเศรษฐกิจแห่งนี้กลายเป็นเวทีการเมือง
ลาฟรอฟไม่ได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอด G20 ในวันสุดท้าย หลังจากเดินทางกลับรัสเซีย เมื่อคืนที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ส่วนสำนักข่าว RIA Novosti สื่อทางการรัสเซีย ระบุว่า อันตอน ซีลูอานอฟ รัฐมนตรีคลังรัสเซีย ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่แทน
ทั้งนี้ การออกแถลงการณ์ร่วมของผู้นำ G20 เกิดขึ้นหลังจากล่าสุดรัสเซียเปิดฉากยิงขีปนาวุธมากกว่า 100 ลูก โจมตียูเครน
แม้ว่าภาคประชาสังคมจะมองว่าการประชุมในปีนี้ไม่สามารถแก้ปัญหาความอดอยากและปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจังได้ แต่การเปิดพื้นที่ให้ผู้นำโลกได้พูดคุยแบบพบหน้ากัน ท่ามกลางความผันผวนของการเมืองโลกก็ยังถือได้ว่าเป็นความสำเร็จเล็ก ๆ
ขณะที่สงครามรัสเซีย-ยูเครนน่าจะเป็นอีก 1 ประเด็นร้อน ในการประชุมเอเปคที่กรุงเทพฯ ในวันศุกร์และเสาร์ที่จะถึงนี้ ซึ่งเป็นการประชุมวงสุดท้ายที่จัดขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ครับ