วันนี้ (30 พ.ย.2565) เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ขึ้นเฮลิคอปเตอร์บันทึกภาพนาทีที่ลาวาบนภูเขาไฟเมานาโลอา (Mauna Loa) บนเกาะฮาวาย พวยพุ่งขึ้นมาตามรอยแยกที่เกิดขึ้นแล้ว 3 จุด หลังจากภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่ ซึ่งใหญ่ที่สุดในโลกปะทุครั้งแรกในรอบ 40 ปี เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยประเมินว่าลาวาพุ่งสูงราว 100-200 ฟุตหรือประมาณ 30-60 เมตร
แม้ว่าลาวาจะไหลทะลักลงมาตามเนินเขา แต่สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ (USGS) ระบุว่า ยังคงไม่มีความเสี่ยงต่อประชาชนและทรัพย์สินในบริเวณใกล้เคียง และยังไม่มีการสั่งอพยพประชาชน เนื่องจากลาวาที่ไหลลงมา กองอยู่รวมกันในจุดที่อยู่ห่างจากถนนของชุมชนไปราว 18 กิโลเมตร และอาจนานอีกมากกว่า 1 สัปดาห์ กว่าลาวาจะไหลมาถึงพื้นที่ที่ประชากรอาศัยอยู่
แต่มีการปิดถนนหลายสายและพื้นที่โดยรอบ พร้อมทั้งเปิดให้บริการศูนย์พักพิงชั่วคราว 2 แห่งแล้ว เพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อน นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังคงเตือนให้ประชาชนเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง เพราะสถานการณ์ไม่แน่นอน โดยอาจเกิดรอยแตกมากขึ้นและลาวาอาจไหลเข้าใกล้พื้นที่ชุมชนมากขึ้นได้
การปะทุของภูเขาไฟ สามารถมองเห็นได้ในระยะทาง 72 กิโลเมตร นักวิทยาศาสตร์ ระบุว่าลมอาจพัดพาแก๊สจากภูเขาไฟและเถ้าถ่านลงมาด้านล่าง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนได้ นอกจากนี้ หินภูเขาไฟที่เกิดขึ้นจากลาวาที่เย็นตัวอย่างรวดเร็วนั้น คมมาก ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อผิวหนังและดวงตาได้
ผู้อำนวยการหน่วยสาธารณสุขของรัฐ ระบุว่าคุณภาพอากาศโดยทั่วไปอยู่ยังคงในเกณฑ์ดี แต่เจ้าหน้าที่กำลังเฝ้าระวังและตรวจสอบอย่างใกล้ชิด ซึ่งคุณภาพอากาศอาจแย่ ลงหากการปะทุเกิดขึ้นนานไปเรื่อย ๆ
ด้านผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การปะทุอาจเกิดขึ้นต่อเนื่องหลายวันหรือหลายสัปดาห์ พร้อมทั้งแนะนำให้ประชาชนลดการออกกำลังกายกลางแจ้งและกิจกรรมอื่น ๆ ที่ทำให้หายใจหนัก ๆ
ภูเขาไฟเมานาโลอา (Mauna Loa) เป็นหนึ่งใน 6 ภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่ ตั้งอยู่บนเกาะฮาวาย และเกิดการปะทุ 33 ครั้ง นับตั้งแต่ปี 1843 เป็นต้นมา โดยการปะทุครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อปี 1984 ซึ่งในครั้งนั้นปะทุนาน 22 วัน และลาวาไหลทะลักเข้าพื้นที่ชุมชนในเมืองฮิโล (Hilo) ซึ่งมีประชากรมากที่สุด ประมาณ 8 กิโลเมตร
อ่านข่าวเพิ่มเติม