"ชูวิทย์" เปิดพยานเพิ่ม "คดีตู้ห่าว"

อาชญากรรม
5 ม.ค. 66
17:31
270
Logo Thai PBS
"ชูวิทย์" เปิดพยานเพิ่ม "คดีตู้ห่าว"
"ชูวิทย์" นำผู้รับเหมาที่นายตู้ห่าว ยังไม่จ่ายค่าจ้างกว่า 10 คน ค้างเงินสูงสุด 36 ล้านบาท พร้อมนำภาพวงจรปิดใน สถานบันเทิงจินหลิงและลีลา ที่พบมีเล่นการพนันแต่ไม่นำเข้าสำนวนมาเปิดเผย พร้อมเตรียมผลักดันให้นำคดีทุนจีนสีเทา อภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาฯ

วันนี้ (5 ม.ค.2566) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นำภาพกล้องวงจรปิดภายในสถานบันเทิงจินหลิงผับ ที่พบว่า มีการเปิดให้บริการยาเสพติด และอาคารลีลา ที่อยู่ใกล้เคียงกัน เปิดลักลอบให้เล่นการพนันคล้ายกาสิโน มาเปิดเผย โดยเป็นช่วงขณะที่ตำรวจนครบาลกำลังเข้าไปตรวจค้น โดยภายในอาคารจินหลิงผับ มีนักท่องเที่ยวกำลังวิ่งหลบหนี และยังมีภาพวงจรปิดภายในห้องเก็บของ พบว่า พนักงานได้ใส่สิ่งของคล้ายยาเสพติด ลงในตระกร้าเครื่องดื่ม ก่อนจะส่งไปให้ลูกค้าที่อยู่ภายในร้าน

 

นอกจากนั้น ยังได้นำพยานที่เป็นผู้รับเหมาโครงการก่อสร้างหลายแห่งที่ใน จ.ภูเก็ต และชลบุรี ที่นายตู้ห่าว ได้ว่าจ้างให้มาตกแต่งและทำระบบโครงสร้างกว่า 10 คน ซึ่งนายตู้ห่าวค้างค่าจ้างกับผู้รับเหมาทุกรายตั้งแต่ 1,500,000 บาท จนบางคนสูงถึง 36 ล้านบาท โดยทุกคน นายชูวิทย์ได้พาไปให้ปากคำกับอัยการแล้ว

 

หนึ่งในผู้รับเหมา บอกว่า หลังจากได้ร่วมทำงานกับนายตู้ห่าวมาตั้งแต่ปี 2559 นายตู้ห่าวได้เป็นผู้ติดต่อว่าจ้าง และจ่ายเงินบางส่วนมาโดยตลอด แต่เมื่อก่อสร้างเสร็จแล้วก็ยังมีค่าจ้างค่าอยู่จำนวนมากและไม่สามารถติดต่อได้ ผู้รับเหมาบางคนต้องนำรถยนต์ และบ้านไปจำนอง จนเป็นหนี้สิน และเมื่อทราบข่าวว่านายตู้ห่าวถูกจับจากคดีทุนจีนสีเทา จึงติดต่อมาที่นายชูวิทย์ เพื่อไปให้ข้อมูล

 

ขณะที่ พยานอีกคน ที่อ้างว่า เป็นคนใกล้ชิดกับนายตู้ห่าว ให้ข้อมูลว่า เห็นนายตู้ห่าว สั่งให้คนไปถอนเงินสด ครั้งละ 20-30 ล้านบาทต่อวัน จากธนาคารแห่งหนึ่ง ย่านลาดกระบัง ซึ่งเป็นเงินจากประเทศจีนที่โอนเข้ามาในไทย

นายชูวิทย์ ยังกล่าวถึงการแถลงข่าวระหว่างผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และอัยการที่ทำคดีว่า มีการทำคดีร่วมกันจนสำนวนคดีมีความสมบูรณ์แล้ว แต่ยังมีช่องว่างและไม่เห็นด้วย เนื่องจากพบว่า มีพยานหลักฐานบางส่วน ที่ไม่นำเข้าสู่สำนวน และเห็นว่าสำนวนคดียังช่วยเหลือนายตู้ห่าว

 

ส่วนกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ได้มาทาบทามให้เข้าร่วมในพรรคและจะให้มาร่วมเปิดโปงขบวนการนี้ต่อ นายชูวิทย์ ยืนยันว่า จะขอทำหน้าที่การตรวจสอบของภาคประชาชน เพราะหากภาคประชาชนไม่เข้มแข็ง ก็จะทำให้เกิดความเสียหายมากกว่านี้ และยืนยันว่า ไม่ใจอ่อนที่จะเล่นการเมือง เพราะได้ประกาศไปตั้งแต่ปี 2560 แล้ว แต่จะผลักดันให้นำเรื่องนี้อภิปรายไม่ไว้วางใจแบบไม่ลงคะแนน ในสภาครั้งสุดท้ายให้ได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง