ตร.เร่งคลี่ปมพ่ออ้างถูกลูกชาย-สะใภ้จับขังวางยา ฮุบสมบัติ 100 ล้าน

อาชญากรรม
13 ก.พ. 66
18:56
1,270
Logo Thai PBS
ตร.เร่งคลี่ปมพ่ออ้างถูกลูกชาย-สะใภ้จับขังวางยา ฮุบสมบัติ 100 ล้าน
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ชายวัย 67 ปี แจ้งความเอาผิดลูกชาย ลูกสะใภ้ และครอบครัว วางยา กักขัง กว่า 2 ปี หวังสมบัติ ขณะที่ ตำรวจยอมรับว่า มีข้อจำกัด เพราะเหตุเกิดตั้งแต่ 2 ปีก่อน แต่จะใช้นิติวิทยาศาสตร์พิสูจน์ความจริง

วันนี้ (13 ก.พ.2566) จากกรณีที่ชายวัย 67 ปี เจ้าของธุรกิจ เข้าร้องเรียนที่สถานีตำรวจภูธรเมืองฉะเชิงเทรา อ้างว่าเขาและภรรยา ถูกลูกชายแท้ๆ และ ลูกสะใภ้ ลักพาตัวออกจากบ้าน ไปกักขังไว้ ที่บ้านพ่อแม่ลูกสะใภ้ กว่า 2 ปี ตั้งแต่ปี 2563-2565

โดยถูกแยกขังคนละห้อง ถูกทำร้ายร่างกาย และบังคับให้กินยาสลบ ที่ทำให้มีอาการสะลึมสะลือ มือตก ขาตก ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ไร้สมรรถภาพ จนภรรยาเสียชีวิต และโอนถ่ายทรัพย์สินไปกว่า 100 ล้านบาท

สุดท้าย เจอพนักงานไปรษณีย์ที่รู้จักกัน จึงฝากจดหมายขอความช่วยเหลือ มาให้หลาน จนช่วยเหลือได้สำเร็จ

ตำรวจ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ค้นบ้านที่ผู้เสียหายอ้างว่าถูกกักขัง แต่ไม่สามารถเข้าไปข้างในได้ หน้าบ้าน มีป้ายข้อความเขียนว่า "ไม่อนุญาตให้นักข่าวและบุคคลภายนอกเข้ามาบริเวณรั้วบ้าน" พบเพียงชาย 3 คน ที่เจ้าของจ้างมาเฝ้าบ้าน อ้างว่า ไม่รู้เรื่องอะไร ตำรวจยังค้นอีก 2 จุด คือ บ้านลูกชาย และบ้านผู้เสียหาย ใน อ.บ้านโพธิ์

ผู้เสียหาย เป็นเจ้าของร้านจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ ยืนยันกับผู้สื่อข่าวห้องเขาและภรรยาถูกขัง นาน 2 ปี ตอนนั้น ห้องถูกล็อก ติดลูกกรง มีเพียงช่องส่งอาหาร

ก่อนหน้านี้ ผู้เสียหายได้เข้าพบตำรวจ แสดงบาดแผลตามร่างกาย ที่อ้างว่าเกิดจากการถูกทำร้าย และยืนยันว่า มีหลักฐานการโอนเงินทั้งหมด ส่วนเรื่องวางยา ให้ตำรวจพิสูจน์ข้อเท็จจริง

ขณะที่ พล.ต.ต.นเรวิช สุคนธวิท ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา ตำรวจยอมรับว่า คดีดังกล่าวมีข้อจำกัดเรื่องพยานหลักฐาน เพราะเหตุเกิดตั้งแต่ปี 2563 จึงต้องพิสูจน์ความจริง ด้วยนิติวิทยาศาสตร์ และผลทางการแพทย์

อีกคดีที่ตำรวจต้องพิสูจน์ คือการเสียชีวิตของภรรยา โดยลูกอ้างว่าแม่ฆ่าตัวตาย แต่ผู้เสียหายสงสัยว่าเป็นฆาตกรรมหรือไม่ ซึ่งตำรวจกลับไปดูที่ผลชันสูตรพลิกศพ ระบุว่า มีสิ่งตกค้างอยู่ในกระเพาะอาหาร เป็นสารเกี่ยวกับยารักษาโรคซึมเศร้า และคาเฟอีน แต่จะเกี่ยวกับยา ที่อ้างว่าบังคับให้กินหรือไม่ ต้องให้แพทย์ยืนยัน

ผู้เสียหายแจ้งความเอาผิดลูกชาย ลูกสะใภ้ และครอบครัวลูกสะใภ้ รวม 6 คน มีทั้งคดีอาญา และคดีแพ่ง เพราะผู้เสียหาย อ้างว่า ลูกถ่ายโอนทรัพย์สินไปกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งตำรวจได้หลักฐานการโอนเงินแล้ว

โดยขั้นตอนต่อไป พนักงานสอบสวน จะเรียกพยานฝั่งผู้เสียหาย มาสอบปากคำ รวม 10 ปาก ส่วนลูกชายผู้เสียหาย ยังไม่ได้เรียกมาสอบปากคำ เพราะต้องรวบรวมพยานหลักฐานก่อน

ขณะนี้ ลูกชายและลูกสะใภ้ไม่ได้อยู่ที่ฉะเชิงเทรา ตำรวจทราบแล้วว่าอยู่ที่ไหน แต่ยังไม่ชัดว่า เจตนาหลบไป หรือไปท่องเที่ยว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง