กระแสว่าที่ผู้สมัครหน้าใหม่ คนรุ่นใหม่ ในพื้นที่อีสานกำลังมาแรง นักการเมืองกลุ่มบ้านใหญ่เลื่อนชั้นเป็นว่าที่ ส.ส.ระบบปาร์ตี้ลิส ขณะที่ทายาทสายตรงของตระกูลใหญ่การเมือง ถูกวางตัวให้ลงระบบ ส.ส.เขต ปะทะอดีตส.ส.เก่าในหลายพื้นที่
โดยเฉพาะภาคอีสานเป็นเขตชิงชัยระหว่าง 2 พรรคใหญ่ พรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทย ซึ่งหลายจังหวัดได้ทยอยเปิดตัว ว่าที่ผู้สมัครหน้าใหม่และเริ่มลงพื้นที่หาเสียงกันบ้างแล้ว เช่น ตระกูลคลังแสง และตระกูลแทนทรัพย์
นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดตัวลูกชายคนโต "รัฐ คลังแสง" หรือ "โก้" เป็นว่าที่ผู้สมัครส.ส.ในเขต 5 จ.มหาสารคาม แทนตัวเองที่เป็นว่าที่ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ
นายสุทิน กล่าวว่า ในฐานะพ่อและนักการเมืองอาวุโส พร้อมสนับสนุนลูกชายซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่มีความรู้ ความสามารถ และพัฒนาให้เป็นนักการเมืองที่ดีมีคุณภาพเป็นที่ยอมรับของประชาชนในพื้นที่ เพราะโลกปัจจุบันเปลียนแปลงเร็วทุกด้านทั้ง เทคโนโลยี การลงทุน การแข่งขัน นวตกรรมใหม่ๆ และข้อมูลข่าวสาร เห็นได้ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มี คนหนุ่ม คนสาว อาสาเข้ามาเป็นตัวแทนของชาวบ้านจำนวนมาก
ส.ส.มหาสารคาม กล่าวว่า ทายาทการเมืองในตระกูลส.ส.เก่าที่พรรคเพื่อไทยส่งลงสมัคร คือ คนรุ่นใหม่ มีการศึกษา มีโลกทัศน์กว้าง ทุกคนต้องการประชา ธิปไตยที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งยุคคนรุ่นพ่อ รุ่นแม่ ยังทำไม่สำเร็จ ต้องฝากความหวังกับคนรุ่นต่อไป แต่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองจะไม่เกิดขึ้นเร็วแบบฉับพลัน จะค่อยๆเปลี่ยนไป คนรุ่นใหม่และคนรุ่นเก่าต้องเรียนรู้ แลกเปลี่ยน ถ่ายทอดประสบการณ์ให้กัน
ผมแก่ลงทุกวัน ไม่คล่องตัวเหมือนก่อน ครั้งนี้เป็นจังหวะของลูกในการเติบโตและเรียนรู้งานทางการเมือง ซึ่งมีทั้งข้อดี ข้อเสีย มีหลุมพราง และจุดที่เป็นอันตราย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความก้าวหน้าในอาชีพนักการเมืองของเขา เราก็ต้องสนับสนุนและคอยเป็นแบ็กให้
นายสุทิน กล่าวอีกว่า สิ่งที่คาดหวังและอยากเห็นจากลูกชาย คือ การเป็นนัก การเมืองที่ดี เป็นที่รักของชาวบ้าน ตั้งใจทำงานพัฒนาประเทศ และจากการลงพื้นที่หาเสียงเขาได้รับเสียงตอบรับดีมาก
ขณะที่ตระกูลแทนทรัพย์ นายสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ ส.ส.ชัยภูมิ พรรคพลังประชารัฐ ส่งลูกสาว น.ส.สุชาดา แทนทรัพย์ หรือ "ไอเดียร์" มาสู้ศึกในพื้นที่ เป็นว่าที่ผู้สมัครส.ส.เขต 4 พรรคภูมิใจไทย แม้ยังไม่เคยลงสนามเลือกตั้งแต่คุ้นเคยกับแวดวงการเมือง เนื่องจากบิดาเคยเป็นนายกเทศมนตรีตำบลเทพสถิต จ.ชัยภูมิ ถึง 4 สมัย ก่อนผันตัวมาเล่นเวทีในสนามระดับชาติ
น.ส.สุชาดา กล่าวว่า มีประสบการณ์ทางการเมืองเมื่ออายุ 24 ปี หลังจบการศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร (SIIT) มหา วิทยาลัยธรรมศาสตร์ ภาคอินเตอร์ ไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์โดย ไม่ได้ปรึกษาบิดา และได้รับโอกาสให้เข้าไปทำงานทำให้มีประสบการณ์หลากหลาย ต่อมาไปอยู่ในกับ New Dem กลุ่มคนรุ่นใหม่ของพรรรค
ออกจากกลุ่ม New Dem น.ส.สุชาดาไปทำงานกับนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ในตำแหน่งโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม ต่อมาปี 2564 มาอยู่กับนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ พรรคภูมิใจไทย มีตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรี
น.ส.สุชาดา เคยเป็นนักแสดงและเป็นเด็กปั้นของ เอ-ศุภชัย ศรีวิจิตร มีผลงาน การแสดงหลายเรื่อง แต่เธอบอกว่า การแสดงไม่ใช่สิ่งที่ตอบโจทย์ในชีวิต เมื่อเข้ามาเรียนรู้ การทำงานในแวดวงการเมือง รู้สึกชอบ เพราะเด็กๆเคยเห็นบิดาลงพื้นที่เหลือชาวบ้านมาก่อนจึงอาจซึมซับโดยไม่รู้ตัว
น.ส.สุชาดา ยอมรับว่า กระแสคนรุ่นใหม่ นักการเมืองรุ่นใหม่มาแรง ตัวเองลงสมัครส.ส.เขต ต้องขยันลงพื้นที่พบชาวบ้านทุกสัปดาห์ โดยใช้เวลาวันหยุดและนอกเวลาราชการ
แม้จะเป็นทายาทนักการเมือง แต่ไม่เคยประมาท ที่สำคัญต้องนำเสนอนโยบายพรรคให้ประชาชนรับรู้ด้วยว่า กำลังทำอะไร และมีอะไรใหม่ๆที่จะนำเสนอ ทุกครั้งที่มีการปราศรัยหรือพบชาวบ้านจะพกความจริงใจไปฝาก
"สู้ได้หรือไม่ เราเป็นคนรุ่นใหม่ที่อยากเสนอตัวทำงานการเมือง อยู่ที่มุมมอง วิธีคิดและการตัดสินใจของประชาชนว่า พร้อมจะให้โอกาสทำงานหรือไม่ การเป็นทายาทนักการเมืองมีส่วนสำคัญที่อาจทำให้ชนะการเลือกตั้ง เพราะคุณพ่อเป็นนักการเมืองมานานกว่า 20 ปี อาจช่วยได้ในระดับหนึ่ง" น.ส.สุชาดา กล่าว
ศึกสายตรงตัวแทนตระกูลการเมือง แม้จะต่างพื้นที่และต่างพรรคแต่ถือเป็นยกแรกในสนามของว่าที่ส.ส.เลือดใหม่ ต้องตามดูว่า 2 ว่าที่ส.ส.ของสองพรรคใหญ่ที่ต่างมีหลังของบิดาเป็นกำแพงพิงใครจะคว้าชัยไปครอง