"ล้มไม้ค้ำ ลิดกิ่งก้าน" กวาดทุนจีนฟอกเงินยาเสพติด

อาชญากรรม
21 มิ.ย. 66
17:12
1,055
Logo Thai PBS
"ล้มไม้ค้ำ ลิดกิ่งก้าน" กวาดทุนจีนฟอกเงินยาเสพติด
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)

ยุทธการ "ล้มไม้ค้ำ ลิดกิ่งก้าน" กวาดล้างทุนจีนผิดกฎหมายยาเสพติดและการพนันของกองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ปส.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ในปี 2565 นอกจากจะทำให้เห็นเครือข่ายทุนจีนที่เข้ามาขยายอิทธิพลในประเทศไทยแล้ว

ด้านหนึ่งสะท้อนให้เห็นว่า กลุ่มทุนดังกล่าวยังมีเครือข่ายกระจายอยู่ในกลุ่มประเทศอาเซียน เช่น ฟิลิปปินส์ เมียนมา ไต้หวัน คนกลุ่มนี้มักจะมาในคราบนักธุรกิจและนำเงินจากการค้ายาเสพติดเข้ามาฟอกเงินด้วยการลงทุนทำกาสิโน สถานบันเทิงและอื่นๆ ในกัมพูชา

หากถูกกดดัน ถูกไล่ล่า ก็พร้อมเคลื่อนย้ายฐานทุนสีเทาไปยังพื้นที่อื่น

ข้อมูลจากคณะกรรมาธิการควบคุมยาเสพติดแห่งชาติ (NNCC) ของจีน ระบุว่า ปี 2560- 2561 พบชาวจีนจาก ฝูเจี้ยน และ เจียงซู เข้ามาในประเทศไทย เพื่อจัดส่งสารเคมีจากแหล่งต่างๆ เข้าไปยังแหล่งผลิตสามเหลี่ยมทองคำ

ปี 2564 ทางการจีน ได้ประสานกับรัฐบาลมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เมียนมา และเวียดนาม ปราบปรามบ่อนการพนันและแพลตฟอร์มการพนันกว่า 2,000 แห่ง และนำตัวผู้ต้องสงสัยชาวจีนกลับประเทศกว่า 600 ราย

ขณะเดียวกัน ภายในประเทศไทยก็พบความเคลื่อนไหวของเครือข่ายค้ายาเสพติด เมื่อกรมโรงงานอุตสาหกรรมและหน่วยงานด้านความมั่นคง เข้าตรวจสอบบริษัทนำเข้า-ส่งออกสารเคมีแห่งหนึ่งใน จ.เชียงราย และมีโกดังในเขตปริมณฑล เมื่อปี 2565

มีรายงานว่าเจ้าของบริษัทและผู้เกี่ยวข้องเป็นชาวจีนที่สวมบัตรประชาชนไทย ซึ่งอาจหลบหนีคดีอาญาจากจีน และเชื่อมโยงกับเครือข่ายค้าเฮโรอีนไทย-เมียนมา

ข้อมูลระบุว่า บริษัทดังกล่าวเคยขอนำเข้าสารเคมีจากจีนมากถึง 7 ชนิด ปริมาณรวมกันกว่า 300 ตัน เข้ามาทางท่าเรือแหลมฉบัง ส่งออกไปปลายทางที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย และ อ.แม่สอด จ.ตาก จำนวนนี้พบสารเคมี 2 ชนิด Ethyl acetate และ Propionyl chloride ที่ใช้ผลิตเมทแอมเฟตามีนได้ รวมกันประมาณ 124 ตัน

สารเคมีทั้งหมดจะถูกส่งไปยังบริษัทแห่งหนึ่งของกลุ่มติดอาวุธในเมือง Kutkai รัฐฉาน ในเมียนมา

แม้ยังไม่พบความเชื่อมโยงของขบวนการค้ายาเสพติดทั้งหมด แต่แนวโน้มของกลุ่มทุนอาชญากรรมได้ปรับเข้าโหมดจากเส้นทางค้ายาเสพติด พนันออนไลน์ และเข้าสู่รูปแบบค้ามนุษย์

ข้อมูลจากหน่วยงานด้านความมั่นคง ระบุว่า ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กลุ่มทุนสีเทาจากจีนจะนำเงินที่ได้จากการค้ายาเสพติดไปลงทุนทำธุรกิจกาสิโนและพนันออนไลน์ และขอรับการยกเว้นภาษีที่ดินจากรัฐบาลท้องถิ่น ในมาเลเซีย ฟิลิปปินส์และเมียนมา โดยอ้างยุทธศาสตร์ "One Belt one road"

ในปี 2562 หลังจีนประกาศแผนปฏิบัติการต่อต้านการฟอกเงิน 2565-2568 โดยประสานความร่วมมือไปยังประเทศที่มีนักธุรกิจสีเทาเข้าไปลงทุนฟอกเงินผิดกฎหมาย จึงเป็นที่มาของการจับกุม 4 ผู้ต้องหาชาวจีน

ไทม์ไลน์กวาดทุนจีน

ไทม์ไลน์กวาดทุนจีน

ไทม์ไลน์กวาดทุนจีน

โดย 3 ใน 4 คนเป็นผู้ต้องหาหลบหนีคดี และจีนต้องการตัว จึงประสานมายังตำรวจสากลและไทยให้จับกุม ปัจจุบันบางรายถูกส่งตัวไปดำเนินคดีที่ประเทศต้นทางแล้ว

คนแรก คือ นายโจว โจวหัว (Zhou Zhuohua) ผู้บริหารกลุ่มกาสิโน Suncity Group มีบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่ฮ่องกง เป็นเจ้าของกาสิโนในมาเก๊า กัมพูชาและฟิลิปปินส์ ถูกตำรวจมาเก๊าจับกุมพร้อมพวก 11 คน เมื่อเดือน พ.ย.2564 ในข้อหาองค์กรอาชญากรรม ฟอกเงิน และลักลอบเล่นการพนันผิดกฎหมาย

ปี 2565 นายเตียว ฮุย ฮวด หรือ "เสี่ยวจาง" หรือ "โทนี่ เตียว" นักธุรกิจมาเลเซียเจ้าของ MBI Group ทางการจีนได้ประสานให้ตำรวจอินเตอร์โพลและตำรวจไทย เข้าจับกุมได้ที่ อ.สะเดา จ.สงขลา หลังก่อนหน้านี้หลบหนีการจับกุมตำรวจเมืองฉงชิ่ง ประเทศจีน ในปี 2555 คดีโกงแชร์ลูกโซ่ และหนีหมายจับของทางการมาเลย์ฯ และเข้ามาทำธุรกิจในไทย ทั้งโรงแรม สถานบันเทิง สวนสนุก ตลาด ธุรกิจก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์

เดือน ส.ค. 2565 นายเสอ จื้อเจียง (She Zhijiang) ผู้ต้องหาหลบหนีหมายจับจากประเทศจีนในปี 2555 ความผิดพนันผิดกฎหมาย ต่อมาหนีคดีและเข้าไปทำธุรกิจ ในฐานะประธานบริษัท Yatai International ที่ "สีหนุวิลล์" ในกัมพูชา และเข้าไปทำธุรกิจโครงการเมืองใหม่ "ชเวก๊กโก" จ.เมียวดี ในเมียนมา ถูกหน่วยปฏิบัติการพิเศษหนุมานกองปราบเข้าจับกุมตามหมายแดงของจีนและตำรวจสากล

เดือน พ.ย.2565 นายหาว เจ๋อ ตู้ หรือ "ตู้ห่าว" หรือ นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ ถูกตำรวจจับกุมในข้อหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดและร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย และ พ.ร.บ.สถานบริการ พ.ศ.2509 และข้อหาฟอกเงิน

การจับกุม "ตู้ห่าว" ทำให้เห็นเครือข่ายความเชื่อมโยง การได้แปลงสัญชาติจากแต่งงานกับคนไทยลูกหลาน อดีตบิ๊กข้าราชการใหญ่ และนักการเมืองระดับชาติ 

การดำเนินคดีกับบุคคลที่มีรายชื่อดังกล่าว แม้บางคนจะถูกส่งตัวกลับไปรับโทษที่ประเทศต้นทาง แต่บางรายยังถูกดำเนินคดีในไทย มีการยึดอายัดทรัพย์สินตาม พ.ร.บ.มาตรการฯยาเสพติดและคดีฟอกเงินแล้วก็ตาม

แต่คดียังไม่สิ้นสุดเนื่องจากศาลยังไม่มีคำพิพากษา จึงถือว่าบุคคลที่ถูกตั้งข้อกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์

จึงน่าจับตาว่า นับจากนี้จะมีกลุ่มทุนอาชญากรรมข้ามชาติรายใดจะผุดขึ้นมาใหม่อีกบ้าง

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

สถานการณ์ยาเสพติด 2566 แนวรบไม่เคยเปลี่ยน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง