กรณีโซเชียลเผยแพร่ภาพที่มีการแพร่ภาพรีสอร์ต Cape Shark Villas ในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี พบตั้งอยู่บนโขดหิน ซึ่งอาจตั้งในพื้นที่ไม่เหมาะสม
วันนี้ (25 มิ.ย.2566) นายยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษา รมว.ทรัพยากรธรรม ชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมเจ้าหน้าที่จากศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบ พบว่าบริษัท เคปชาร์ค พูล วิลล่า จำกัด เป็นผู้ครอบครองรีสอร์ตดังกล่าว บนพื้นที่เกาะเต่า ซึ่งเป็นที่ดินราชพัสดุ ของกรมธนารักษ์
ทั้งนี้ โดยเจ้าของอาคารไม่ได้ขออนุญาตการก่อสร้าง จากเทศบาลตำบลเกาะเต่า และพื้นที่ครอบครองยังไม่ได้ดำเนินการเช่าที่ดินจากกรมธนารักษ์ และก่อนหน้านี้เมื่อ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีการสั่งห้ามมิให้บุคคลใช้หรือเข้าไปในส่วนใดๆ ของอาคารแล้ว
ทส.พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบรีสอร์ตหรูบนเกาะเต่า
ทส.พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบรีสอร์ตหรูบนเกาะเต่า
นอกจากนี้ ยังพบอีกว่า บริเวณอาคารที่พัก มีท่อน้ำทิ้งปล่อยลงทะเล ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสาธารณะ โดยไม่มีการบำบัดตามมาตรฐานของทางราชการ เจ้าหน้าที่ ได้ร่วมกันพิจารณาแล้ว และแจ้งให้นางสุนิสา ลาพอร์ท เจ้าของรีสอร์ตดังกล่าว ใน 4 ข้อหาตามกฎหมายหลายฉบับดังนี้
- พ.ร.บ.ที่ราชพัสดุ พ.ศ.2562 ฐาน ยึดถือหรือครอบครองทั้งหมดหรือแต่บางส่วน โดยไม่มีสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมาย หรือเข้าไปกระทำการใดๆ อันเป็นการรบกวนการใช้ประโยชน์ที่ราชพัสดุ เป็นการทำลายหรือทำให้เสื่อมสภาพแก่ที่ราชพัสดุ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 45
- พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ฐาน ก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเคลื่อนย้ายอาคาร โดยไม่ได้รับอนุญาตจาก เจ้าพนักงานท้องถิ่น หรือแจ้งต่อพนักงานท้องถิ่นและดำเนินการตามมาตรา 39 ทวิ ตามมาตรา 21 ประกอบมาตรา 65
- พ.ร.บ.โรงแรม พ.ศ.2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ฐาน ประกอบธุรกิจโรง แรม โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน มาตรา 15 ประกอบมาตรา 59
- พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติมฐาน ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดในกฎกระทรวงที่ออกตามมาตรา 44 หรือตามประกาศของรัฐมนตรีตามมาตรา 45 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
เจ้าหน้าที่ได้ทำบันทึก พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง นำเรื่องส่งพนักงานสอบสอนสถานีตำรวจภูธรเกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
สภาพภายในห้องพัก พบมีเสริมเตียงนอนให้กลมกลืนกับโขดหิน
สภาพภายในห้องพัก พบมีเสริมเตียงนอนให้กลมกลืนกับโขดหิน
นายยุทธพล กล่าวว่า ในการพูดคุยนางสุนิสา ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี พร้อมยอมรับทุกข้อกล่าวหา ยืนยันทำไปด้วยไม่รู้ข้อกฎหมาย จากนี้ยินดีรื้อถอนอาคาร พร้อมรับผิดชอบฟื้นฟูพื้นที่บริเวณดังกล่าวให้กลับคืนสู่สภาพเดิม
ทั้งนี้มีรายงานว่า วันพรุ่งนี้ (26 มิ.ย.) ในส่วนของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) จะมีการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูล และร่วมประชุมหารืออีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม สำหรับพื้นที่เกาะเต่า ตามคำสั่ง ทช.มีการประกาศคุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง บริเวณพื้นที่เกาะเต่า เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน และเกาะสมุย อ.เกาะสมุย จ.ราษฎร์ธานีเมื่อ 31 พ.ค.2565 ตามมาตรา 17 พ.ร.บ.ส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ.2558